ตำรวจพัทยาเร่งแกะรอยคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทองร้านทองออโรร่า ในห้างดังย่านพัทยาใต้ รวมมูลค่า 1 ล้านบาท พบโยนของกลางปืนบีบีกัน ถาดใส่ทอง เสื้อที่ใส่ก่อเหตุ ทิ้งข้างป่าริมถนนสุขุมวิท ห่างห้าง 1 กม.
จากเหตุการณ์คนร้ายควงปืนบุกเดี่ยว จี้ชิงทองร้านทองออโรร่า ในห้างเทสโก้ โลตัส พัทยาใต้ หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี กวาดทองคำรูปพรรณไป 2 ถาดโดยเบื้องต้นคาดว่าอยู่ราวๆ 50 บาท แต่เมื่อได้ตรวจสอบแล้ว พบว่าทองที่หายไปมีน้ำหนักรวม 34 บาท คิดเป็นมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท แล้วหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 9 พ.ย. ที่ผ่านมา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา กำลังเร่งแกะรอยติดตามจับกุมตัว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (10 พ.ย.) ชุดสืบสวนนอกเครื่องแบบ ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ ตรวจสอบกล้องวงจรปิดของห้างทั้งหมด เพื่อแกะรอยเส้นทางหลบหนีของคนร้าย เบื้องต้นพบว่า คนร้ายหลังก่อเหตุ ได้ขี่รถจยย.หลบหนีออกไปทางถนนเทพประสิทธิ์ พัทยาใต้ ก่อนจะยูเทิร์น แยกไฟแดง สุขุมวิท เขาตาโล แล้วขี่มุ่งหน้าไปทาง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ขณะที่กองพิสูจน์หลักฐาน นำหมวกกันน็อกของคนร้าย ไปตรวจสแกนหาลายนิ้วมือ เพื่อพิสูจน์ทราบว่าคนร้ายคือใคร
พนักงานหน้าเคาท์เตอร์ ร้านทองออโรร่า ที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุ คนร้ายได้มาทำทีขอซื้อทองเส้นหนัก 3 บาท พอดูเสร็จก็บอกกับพนักงานว่า รอเงินสักครู่ ทางร้านจึงเชิญให้นั่งรอบริเวณหน้าร้าน นานเกือบครึ่งชั่วโมง ก่อนที่คนร้ายจะเดินออกไป ไม่ถึง 5 นาที ก็ย้อนกลับมาก่อเหตุ โดยได้ยื่นข้อความในกระดาษให้อ่าน ระบุข้อความ “กำลังเดือดร้อน แม่ป่วยหนัก” แล้วล้วงปืนออกจากกระเป๋าสะพายออกมาขู่ ก่อนจะเดินปรี่เข้าในเคาน์เตอร์ แล้วกวาดออกไป 2 ถาดดังกล่าว
พ.ต.อ.กุลชาติ กุลชัย ผกก.สภ.เมืองพัทยา เจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 2 ตำรวจชลบุรี โดยเบื้องต้นนั้นจากการสังเกตพฤติกรรมของคนร้ายนั้น 1 คน ปิดบังใบหน้า ใส่หมวก เสื้อคลุมลายสีส้ม กางเกงยีนส์ ใส่รองเท้านันยางสีดำ จากนั้นได้ยื่นเอกสารข้อความ เขาเดือดร้อน และควักปืนขู่ จากนั้นทางร้านทำใจดีสู้เสือ จากนั้นคนร้ายได้เข้าหยิบทอง ก่อนเอา จยย.หลบหนี โดยเส้นทางหลบหนีเจ้าหน้าที่กำลังลงพื้นที่หาเส้นทางหลบหนี ซึ่งตอนนี้การสืบสวนคืบหน้ามาก แต่ขอให้เจ้าหน้าที่สืบสวนทำงานก่อน ส่วน จยย.ที่คนร้ายใช้ เบื้องต้นเป็น รุ่นเวฟ 125 สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยคนร้ายมีความใจเย็น เรียบง่าย โดยใช้เวลาอยู่ในห้างนานกว่า 40 นาที ซึ่งถ้าใครเห็นเบาะแสคนร้าย สูงประมาณ 175 ซม. ผิวดำแดง รูปร่างท้วม ทางตำรวจ กำลังไล่ประวัติย้อนหลังกลุ่มที่พึ่งพ้นโทษ
ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ชุดสืบสวนภาค 2 ไล่ดูกล้องวงจรปิด พบว่าเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนีหลังก่อเหตุ โดยได้ขี่ขึ้นบนถนนสุขุมวิท แล้วมุ่งหน้าไปทาง อ.สัตหีบ ก่อนมาพบ รถจักรยานยนต์ของคนร้าย หายไปช่วงบริเวณ ปากซอยสุขุมวิท 85 ห่างจาก ห้างที่เกิดเหตุประมาณ 1 กม. เมื่อลงพื้นที่ตรวจสอบ แล้วเดินเท้าเข้าไปในป่าข้างทาง โดยเดินเข้าไปในป่าประมาณ 5 เมตร จนพบหลักฐานสำคัญ
โดยตำรวจชุดสืบสวนภาค 2 ได้พบ ถาดใส่ทองสีแดง จำนวน 2 ถาด ปืนบีบีกัน 1 กระบอก ถุงกระสุนบีบีกัน 1 ถุง กระเป๋าสะพายสีน้ำตาล เสื้อคลุมแขนยาว 3 ตัว โดยเป็น เสื้อคลุมไนกี้สีดำ 1 ตัว ตัวเสื้อคลุมสีดำ 1 ตัว และ เสื้อคลุมสีดำ ที่คนร้ายใส่ก่อเหตุ 1 ตัว ลักษณะของทั้งหมด ถูกคนร้ายเหวี่ยงโยนไปทั่วบริเวณ สิ่งของแต่ละชิ้นถูกโยนทิ้งกระจัดกระจาย ระยะห่างกันประมาณ 2-3 เมตร จึงเก็บของกลางทั้งหมด ส่งให้ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานเขต 2 ชลบุรี ไปทำการตรวจหาลายนิ้วมือแฝงของคนร้าย นอกจากนี้ยังพบร่องรอย ล้อรถจักรยานยนต์ ลักษณะถูกเข็น ออกทะลุไปในซอยข้างใกล้ๆ กัน จนลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
จากการตรวจสอบภาพวงจรปิด จากบ้านใกล้เคียงที่มีกล้องที่อยู่ใกล้กับจุดที่คนร้ายโยนของกลางทิ้ง พบว่า พฤติกรรมของคนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ เข้ามาจอดในป่า นานเกือบ 3 นาที โดยภาพวงจรปิดเห็นเพียงไฟท้ายรถจักรยานยนต์ โดยสุนัขในบ้านได้ส่งเสียงเห่า ตลอดเวลา จากนั้นแสงไฟก็หายไป
โดยนายป็อป (สงวนชื่อนามสกุล) อายุ 31 ปี คนในบ้านใกล้ชุดเกิดเหตุ กล่าวว่า ช่วงที่เสียงสุนัขเห่า กำลังนั่งทำงานอยู่ในบ้าน แต่ไม่คิดเอะใจ เพราะสุนัขชอบเห่าเป็นประจำ เวลามีคนขับขี่รถผ่านหน้าบ้าน จนกระทั่งมาทราบข่าวว่าคนร้าย นำของกลางที่จี้ร้านทองมาโยนทิ้ง เมื่อเปิดกล้องวงจรก็พบพฤติกรรมของคนร้ายตามที่ปรากฏในภาพวงจรปิด.
