05 ม.ค. 2566 | 05:57:14
24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 4 มกราคม 2566
>> แจ้งความ ปอศ. ถูก “โค้ชทรงเอ” หลอกลงทุนเก็งกำไรเงินดิจิทัลฯ สูญกว่า 500 ล้านบาท
10.00 น. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นาย กัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” พาผู้เสียหายกว่า 200 คน ถูกหลอกให้ลงทุนเก็งกำไรซื้อขายเงินดิจิทัลและเงินต่างประเทศ เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.โดยมี ร.ต.อ.อาวุธ ทิพย์วงศา รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอศ. เป็นผู้รับเรื่อง “กัน จอมพลัง” เปิดเผยว่า วันนี้มาขอให้ บช.ก. ช่วยกรณีที่ถูกนายกรวิชญ์ (สงวนนามสกุล) หรือ โค้ชทรงเอ” หรือ “กอล์ฟ เอหิปัสสิโก” หรือ “กอล์ฟ Freedom Trader” ที่อ้างตัวเป็นโค้ชแนะนำการลงทุนแบบรวยเร็ว ผ่านเฟซบุ๊ก แถมยังแอบอ้างว่าเป็นลูกบุญธรรม รองนายกฯ ในรัฐบาลนี้ด้วย
ทั้งนี้ในระหว่างที่มีการแถลงยื่นเรื่องดังกล่าว ได้มีผู้เสียหายปรากฏตัวขึ้นมาอีก 1 คน โดยอ้างว่าเขาคือคนที่ถูกกล่าวอ้างว่าให้การช่วยเหลือ “โค้ชทรงเอ” และแอบโยกย้ายทรัพย์สินบางส่วนของ” โค้ชทรงเอ” ไป จนเกิดมีปากเสียงโต้เถียงท้าทายกัน
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ให้ผู้เสียหายกรอกข้อมูลเพื่อรวบรวมผู้เสียหายทั้งหมด รวมทั้งมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป
>> โฆษก ทร. ปรับแผนลงใต้ ค้นหาผู้สูญหายอีก 5 นาย ที่หมู่เกาะอ่างทอง
11.00 น. พลเรือเอกปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่าปัจจุบัน กองทัพเรือยังคงดำเนินการค้นหาผู้สูญหายจากเรือหลวงสุโขทัยอับปางอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะตามแนวชายฝั่ง ซึ่งชุดปฏิบัติการพิเศษของ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ ได้แบ่งกำลังออกเป็น 3 ชุดประกอบด้วย ชุดค้นหาใต้น้ำ ชุดค้นหาผิวน้ำ และชุดค้นหาบนเกาะ โดยได้ปูพรมค้นหา ตามเกาะต่างๆในพื้นที่จังหวัดชุมพร รวมถึงอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรซึ่งมีเกาะทั้งหมด 33 เกาะ โดยก่อนหน้านี้ ได้ทำการสำรวจไปแล้ว 25เกาะ
และเมื่อวานนี้ (3 มกราคม 2566) ได้ทำการสำรวจ 8 เกาะ ประกอบด้วย เกาะคางเสือ เกาะรังห้า เกาะมะพร้าว เกาะยอ เกาะขี้นก เกาะรางบรรทัด เกาะคราม และเกาะพิทักษ์ ซึ่งถือว่าได้ทำการสำรวจครบทุกเกาะของจังหวัดชุมพรแล้ว แต่อย่างไรก็ตามกองทัพเรือยังไม่หยุดการค้นหากำลังพลที่สูญหาย ซึ่งยังเหลืออีก 5 นาย โดยได้มีการส่งชุดปฏิบัติการพิเศษเรือยางร่วมกับหน่วยงานต่างๆเข้าค้นหาในพื้นที่อื่นที่คาดว่าจะพบร่างของกำลังพลต่อไป โดยในวันนี้จะเข้าทำการค้นหาใน พื้นที่หมู่เกาะอ่างทอง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ผลการปฏิบัติจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการพบผู้สูญหายเพิ่ม
สรุปการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ยอดกำลังพล 105 นาย รอดชีวิต จำนวน 76 นาย เสียชีวิตรวม 24 นาย (อยู่ในระหว่างการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล 1 นาย) และยังคงสูญหาย รวม 6 นาย (มี 1 นาย ที่อยู่ในระหว่างการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลซึ่งยังไม่ได้ตัดยอดในจำนวนนี้)
>> ป.ป.ช. สั่งสอบปมงบ 33 ล้านบาท เปลี่ยนป้ายสถานีกลางบางซื่อ
13.00 น. นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีที่สังคม ตั้งคำถามและเรียกร้องให้มีการตรวจสอบ ความไม่ชอบมาพากลในการว่าจ้างเอกชน เปลี่ยนป้ายชื่อ สถานีกลางบางซื่อ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ใช้งบประมาณกว่า 33 ล้านบาท ว่า
เรื่องนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. ได้สั่งการให้ มีการรวบรวมข้อมูลตามที่ปรากฏเป็นข่าวแล้ว เพื่อดำเนินการตรวจสอบตามกระบวนการ ขณะเดียวกัน ก็มีผู้มาร้องเรียนเรื่องนี้ กับ ป.ป.ช. แล้วเช่นกัน หลังจากนี้จะเข้าสู่กระบวนการตั้งเรื่องขึ้นมารวบรวมข้อเท็จจริงให้ชัดเจนว่าการจัดซื้อจัดจ้าง และการกำหนดสเป็กเป็นอย่างไร ซึ่งในส่วนของ ป.ป.ช. มีอำนาจตรวจสอบว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้เอกชน หรือผู้ใดหรือไม่ มีการฮั้วประมูลกันหรือเปล่า และเป็นการทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือไม่ เพื่อจะได้เอาผิดในคดีอาญาต่อไป แต่ในส่วนของความคุ้มค่าในการใช้งบประมาณ จะเป็นอำนาจของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. ที่จะตรวจสอบ ซึ่งกรณีนี้จะคล้ายการตรวจสอบประเด็นเสาไฟกินรี
อย่างไรก็ตาม เลขาธิการ ป.ป.ช. ยอมรับว่าบางเรื่องแม้จะมีการจัดซื้อมาโดยไม่จำเป็น แต่หากการซื้อดังกล่าวเป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมด อย่างรถประจำตำแหน่ง ที่เคยวิจารณ์กัน สุดท้ายก็อาจจะทำอะไรไม่ได้ สตง. ก็ทำได้แค่ท้วงติง แต่หากมีการล็อกสเป็กขึ้นมา ป.ป.ช. ก็จะสามารถเอาผิดได้
>> เจ้าของช็อกจนเป็นลม หลังเห็นบ้าน และร้านคาร์แคร์ ถูกไฟไหม้
13.20 น. สภ.เมืองอ่างทอง รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ร้านล้างรถ ในพื้นที่ ม.8 ถนนเลี่ยงเมือง ต.โพสะ อ.เมือง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมประสานรถน้ำดับเพลิงจากเทศบาลเมืองอ่างทอง เทศบาลต.โพสะ เทศบาลต.ศาลาแดง และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เข้าระงับเหตุ
ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งไม้ครึ่งปูน 2 ชั้น ด้านหน้าเปิดเป็นล้างรถ กำลังถูกเพลิงไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งระดมฉีดน้ำ เพื่อควบคุมเพลิงนานประมาณ 1 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบลง เบื้องต้น พบว่าเพลิงได้ไหม้ลุกลามเสียหายหมดทั้งหลัง
ด้านนางวิภา อายุ 63 ปี เจ้าของบ้าน กลับเข้ามาเห็นไฟกำลังไหม้บ้าน ถึงกับเป็นลมล้มพับ ทางเจ้าหน้าที่ต้องเร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งรพ.อ่างทอง เบื้องต้นตำรวจอยู่ระหว่างเข้าตรวจสอบ เพื่อหาสาเหตุของเพลิงไหม้ในครั้งนี้ต่อไป
>> รัฐ ขอบคุณคนไทย-ผู้ประกอบการ ช่วยกันเดินหน้าเศรษฐกิจไทย
14.00 น. นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตนได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ติดตามและสังเกตการณ์บรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวเนื่องในเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก โดยตนได้เดินทางไปสักการะพระแก้วมรกต ในพระบรมมหาราชวัง ทำให้ทราบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่ผ่านมาของวัดพระแก้วในช่วงวันจันทร์-ศุกร์นั้น อยู่ที่ประมาณ 14,000-16,000 คน
ขณะที่วันเสาร์-อาทิตย์ อยู่ที่ประมาณ 20,000-22,000 คน แสดงให้เห็นว่า จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ชี้ชัดถึงความสำเร็จในการฟื้นฟูการท่องเที่ยวให้สอดรับกับความปกติถัดไป (Next Normal) และยังตอบรับแคมเปญ “Visit Thailand Year 2022-2023 : Amazing New Chapters” อีกด้วย
นายธนกร กล่าวว่า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชน ผู้ประกอบการ และทุกภาคส่วน ที่ช่วยกันเดินหน้าเศรษฐกิจไทย ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และภาคบริการ รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยว กลับมาเติบโตเร็วกว่าที่คาดการณ์ ซึ่งหลังจากนี้ รัฐบาล โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จะพิจารณาปรับเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเป้าหมายในปี 2566 เพื่อเดินหน้าสร้างความสมดุลทางเศรษฐกิจและสาธารณสุข ตามแนวทางที่ท่านนายกฯ ได้ให้นโยบายไว้
>> จับแล้ว พ่อโหดฆ่าลูก 3 ขวบ ขี่จยย. หนีข้ามจังหวัด จนมุมกลางปั้ม
15.00 น. พล.ต.ต.ชัยต์พจน สูวรรณรักษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 2, และ พ.ต.อ.นิทัศน์ แหวนประดับ ผกก.สภ.เมืองชลบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม
ได้ร่วมแถลงข่าวการจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุคดีความผิดอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญในพื้นที่ สภ.ลาดยาว จว.นครสวรรค์ ตามที่ปรากฏในข่าว โดยมีพฤติการณ์หลังก่อเหตุ ผู้ต้องหาได้ขับรถหลบหนีมาในพื้นที่ของ สภ.เมืองชลบุรี ต่อมาพลเมืองดีเป็นผู้พบเห็น จึงได้แจ้ง จนท.ตร.สายตรวจให้มาตรวจสอบ และได้พบผู้ต้องหา มาหลบพักในสถานีบริการน้ำมัน จึงได้เข้าควบคุมตัวไว้และได้ประสานกับทาง สภ.ลาดยาว
ด้าน พ.ต.อ.นิทัศน์ ผกก.สภ.เมืองชลบุรี เปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้มาจากที่พลเมืองดี ได้โทรศัพท์มาที่ 191 แจ้งเหตุพบบุคคลต้องสงสัยมีลักษณะเหมือนคนร้ายพ่อฆ่าลูกที่จังหวัดนครสวรรค์ จึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เข้าไปตรวจสอบ และได้พบคนร้ายกำลังเดินออกจากห้องน้ำ ทางตำรวจก็ได้เข้ามาควบคุมตัว และเมื่อทำการสอบถามชื่อ ก็ตรงกับชื่อของผู้ต้องหาฆ่าลูกตัวเองดังกล่าว แต่ยังให้การปฎิเสธ ไม่ได้ฆ่าลูกตัว ต้องขอขอบคุณ ทางประชาชน ที่ให้ความสนใจในข่าวสาร และแจ้งเบาะแส มาให้กับตำรวจ จนสามารถรวบตัวได้โดยเร็ว
ขณะที่ผู้ต้องหา เล่าว่า วันเกิดเหตุ ตนเองได้ยินเสียงมีคนมาอุ้มลูกแท้ของตน ที่เกิดจากเมียเก่าจากที่นอน เลยเดินตามไปและพบลูกอยู่ในป่ามัน ขณะมีผีผู้หญิงแก่มาหลอกตน ทำให้กลัววิ่งหนี และทิ้งลูกไว้ มารู้ทีหลังว่าลูกตายแล้ว เลยขี่รถจักรยานยนต์มาจังหวัดชลบุรี เพื่อไปรับแฟนใหม่ที่บางแสน ระหว่างใกล้ถึงได้แวะเติมน้ำมัน เข้าร้านสะดวกซื้อ และเข้าห้องน้ำ พอออกมาก็เจอกับทางตำรวจ เลยถูกจับกุมดังกล่าว
>> ผบ.ตร. ย้ำ รับดูแล “คดีผับจินหลิง” ด้วยตนเอง
16.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า สังคมอาจเข้าใจคาดเคลื่อนในคดีร้านจินหลิง ว่า “ผบช.น.ยังทำหน้าที่เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน” นั้น อยากเรียนให้ทราบว่า ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.65 อัยการสูงสุดได้มอบหมายให้ผมเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ มีหน้าที่ลงนามทำความเห็นทางคดีในสำนวนการสอบสวน โดยทำการสอบสวนร่วมกับพนักงานสอบสวนในสังกัด บช.น. บช.ก. บช.ปส. และ บช.สอท. และพนักงานอัยการที่ อสส.มอบหมาย จำนวน 12 ท่าน ผมได้ดูแลการสอบสวนด้วยตัวเองอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอดร่วมกับพนักงานอัยการ เพื่อให้งานขับเคลื่อนอย่างรวดเร็วและรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนที่สุด ขอให้สื่อมวลชนและประชาชนมั่นใจในการสอบสวนคดีนี้ เพราะฉะนั้นขอให้เข้าใจให้ถูกต้องด้วยว่า ผบช.น. ไม่ได้เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน คดีนี้แล้ว
คดีนี้มีการสอบพยานไปแล้ว 400 ปาก ยื่นคำร้องขอออกหมายจับจากศาลอาญากรุงเทพใต้ ออกหมายจับรวมแล้ว จำนวน 37 ราย มีทั้งข้อหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1, จำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 และ 4 สมคบยาเสพติดฯ และข้อหาฟอกเงิน จับกุมแล้ว จำนวน 19 ราย เหลืออีก 18 รายอยู่ระหว่างติดตามจับกุม โดยตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค.65 เป็นต้นมา มีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในคดีเรื่องนี้ทั้งหมด 114 ราย (รวมคดีเสพ) ทั้งนี้จะสรุปสำนวนเสนออัยการสูงสุด ซึ่งคาดว่าภายใน 2 สัปดาห์นับจากนี้ และอัยการสูงสุดจะพิจารณาฟ้องคดีต่อศาลภายใน 20 มกราคมนี้
>> กระบะฝ่าไม้กั้น ถูกรถไฟชนอย่างจัง เจ็บ 1 และเสียชีวิต 1 คน
17.00 น. ได้รับแจ้งจาก ศูนย์วิทยุกู้ภัยมูลนิธิสว่างสระแก้ว เกิดอุบัติเหตุรถไฟชนกับรถยนต์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต บนทางหลวงชนบท เส้นทางไปหมู่บ้านแสงจันทร์ ในพื้นที่ ต.ศาลาลำดวน อ.เมือง จ.สระแก้ว
โดยที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ อีซูซุ ดีแม็กซ์ สีเทา หมายเลขทะเบียน สระแก้ว ลักษณะถูกรถไฟ สายกรุงเทพฯ – คลองลึก พุ่งชนแล้วพลิกตะแคงอยู่ร่องน้ำข้างรางรถไฟ และมีผู้เสียชีวิตในรถยนต์ 1 คน ทราบชื่อต่อมา นายสม และมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย คือนายประหยัด อายุ 77 ปี อาสากู้ภัยนำส่ง รพ.
จากการสอบถามชาวบ้านที่อยู่บริเวณใกล้ทางรถไฟ และพบเห็นอุบัติเหตุดังกล่าว กล่าวว่า ตกใจทำอะไรไม่ถูกเลย ได้ยินเสียงวูดรถไฟดังเตือนมา แต่อยู่ไกล ๆ ซึ่งรถคันนี้วิ่งผ่านหน้าบ้านไปอย่างเร็ว โดยไม่ได้เบรกเลย และก็เห็นไม้กั้นทางรถไฟกั้นอยู่ แต่รถปิกอัพคันดังกล่าว ได้วิ่งผ่าไป คิดว่า จะสามารถขับข้ามผ่านไปได้ จนถูกรถไฟชนและมีผู้เสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งภายหลังทางญาติไม่ติดใจในสาเหตุการตาย ทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระแก้ว จึงอนุญาตให้นำศพกลับไปเพื่อบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป
>> ไฟไหม้ร้านขายของชำ หวิดวอดทั้งหลัง
17.09 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน สถานที่เกิดเหตุ เลขที่ 8/359 ซอยวัดเวฬุวนาราม 15 ถนนเวฬุวนาราม แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮ้าส์ชั้นเดียว ประกอบกิจการร้านขายของชำ ต้นเพลิงเกิดขึ้นภายในทาวน์เฮ้าส์ เพลิงลุกไหม้ กล่องกระดาษ ตู้เย็น ฝ้าเพดาน และของใช้เบ็ดเตล็ด ลุกลามทาวน์เฮ้าส์ข้างเคียง เลขที่ 8/358 เสียหายหลังคาและฝ้าเพดาน พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 18 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจาก ไฟฟ้าลัดวงจรที่ปลั๊กไฟติดผนัง ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยดอนเมือง
>> รถจยย. ชนกับรถบดถนน เสียชีวิต
22.13 น. ศูนย์วิทยุมูลนิธิเสมอกัน กู้ภัยสุพรรณบุรี รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถบดถนน ทางหลวงชนบท สพ. 4022 ใกล้เคียง อบต.หนองสะเดา อ.สามชุก จ.สุพรรญบุรี เส้นทางบ้านดอนไร่-บ้านหนองสะเดา
ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบจักรยานยนต์ฮอนด้า (ไม่ทราบรุ่น) สีดำ-แดง ทะเบียน สุพรรณบุรี ชนท้ายรถบดถนน จากความรุนแรงทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที 1 ราย เป็นชายอายุประมาณ 13-15 ปี ไม่มีเอกสารติดตัว สาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน พื้นที่ สภ.สามชุก
>> รถเก๋ง 2 รถบรรทุก 2 คันชนกันกลางต่างระดับฉิมพลี สาววัย 20 เสียชีวิต
00.20 น. รับแจ้งจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เกิดอุบัติเหตุ รถบรรทุก 2 คันและรถนั่งส่วนบุคคล 2 คันชนกัน และมีผู้บาดเจ็บยังติดค้างภายในยานพาหนะ บนต่างระดับฉิมพลี ถนนกาญจนาภิเษก ฝั่งมุ่งหน้าถนนเพชรเกษม ในช่องทางหลัก เลนขวา
โดยที่เกิดเหตุเป็น รถนั่งส่วนบุคคล ฮอนด้า ซีวิค สีเทา ทะเบียน กทม., รถนั่งส่วนบุคคล ฮอนด้า บริโอ้ สีเทา ทะเบียน กทม., รถ 10 ล้อ ฮีโน่ สีขาว ทะเบียน นครปฐม และรถบรรทุก 10 ล้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน อุบลราชธานี ลักษณะชนกันซ้ำซ้อน
ความรุนแรงทำให้มีผู้บาดเจ็บรวม 3 ราย โดยมี 2 รายอาการสาหัสและติดค้างภายในรถเก๋ง ฮอนด้า ซีวิค อาสากู้ภัยเร่งใช้เครื่องมือตัดถ่าง ให้การช่วยเหลือนำออกจากตัวรถ และดำเนินการทำ CPR และรับแจ้งว่าผู้บาดเจ็บ 1 รายเป็นหญิงนั้นได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
คืบหน้า ผู้บาดเจ็บรวม 2 ราย อาสากู้ภัยฯ นำส่ง รพ.เกษมราษฎร์ บางแค ทราบชื่อ นาย สุรชัย อายุ 21 ปี (คนขับรถบริโอ้) ส่วนอีก 1 รายนั้นมีอาการสาหัส มอบให้กู้ชีพ รพ.ศิริราช ดำเนินการ ทราบชื่อ นาย สุรสิทธิ์ อายุ 26 ปี (คนขับรถซีวิค) ส่วนผู้เสียชีวิตนั้นเป็นหญิง ทราบชื่อ นส. สุวิภา อายุ 20 ปี (ผู้โดยสารรถซีวิค) ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ตลิ่งชัน
>> สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก วันที่ 5 มกราคม 2566 เวลา 05.00 น.
ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกจำนวน 666,249,462 ราย รักษาอาการดีขึ้น 638,242,008 ราย เเละเสียชีวิตสะสม 6,702,033 ราย
1. ประเทศ สหรัฐอเมริกา ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 102,755,400 ราย เสียชีวิต 1,118,845 คน (เพิ่มขึ้น 88 คน)
2. ประเทศ อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 44,680,402 ราย เสียชีวิต 530,707 คน (ยังไม่อัปเดต)
3. ประเทศ ฝรั่งเศส ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 39,370,289 ราย เสียชีวิต 161,500 คน (เพิ่มขึ้น 123 คน)
4. ประเทศ เยอรมนี ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 37,446,795 ราย เสียชีวิต 162,021 คน (เพิ่มขึ้น 307คน)
5. ประเทศ บราซิล ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 36,397,820 ราย เสียชีวิต 694,235 คน (เพิ่มขึ้น 203 คน)
Share this:
