“บิ๊กตู่” คิกออฟโครงการหนึ่งโรงเรียนหนึ่งครูอนามัย ย้ำสร้างเด็กไทยรอบรู้สุขภาพ ฝากสอน นร.ให้ซึมซับรักชาติบ้านเมืองด้วยหัวใจ “ทำเนียบฯ” คึกคัก! เตรียมจัดงานวันเด็ก 14 ม.ค.นี้ ภาครัฐ-เอกชนตั้งบูธจัดกิจกรรมแจกรางวัลอื้อ พร้อมเปิดห้องทำงานลุงตู่ให้เด็กนั่งเก้าอี้นายกฯ “โพล” เผยเด็กไทยอยากเป็นครูมากสุด ตามด้วยหมอ-พยาบาล-นักธุรกิจ “ทัพเรือ” โชว์เรือรบ-อาวุธ ที่สัตหีบ
ที่โรงเรียนโพธิสารพิทยากร เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ วันที่ 13 ม.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดงาน Kick off โครงการหนึ่งโรงเรียนหนึ่งครูอนามัย สร้างเด็กไทยรอบรู้สุขภาพ โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ, นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข, ผู้บริหารโรงเรียนโพธิสารพิทยากร ครูและนักเรียน ร่วมงาน
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเปิดงานว่า วันนี้ให้ความสำคัญต่อเรื่องของสุขภาพจิต เพราะถ้าสุขภาพจิตดี กายก็ดี ทำอะไรก็ดีไปหมด ฉะนั้นขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจด้วย กิจกรรม 1 โรงเรียน 1 ครูอนามัย สร้างเด็กไทยรอบรู้สุขภาพ เป็นการเรียนรู้ จะเป็นกุศลทั้งตัวเองและคนอื่น ทำอะไรนึกถึงตัวเองไม่ผิด แต่ถ้านึกถึงคนอื่นไปด้วยได้หรือไม่ เพื่อให้สังคมดีขึ้น เดินหน้าไปสู่ความมีเสถียรภาพและเดินหน้าประเทศเราในวันข้างหน้า
“สิ่งที่ผมมอบไปในคำขวัญวันเด็กแห่งชาติ พยายามเขียนให้ง่ายที่สุด ทำง่ายๆแค่นี้ รู้หน้าที่ของเราอยู่ตรงไหน มีวินัยจะมีได้อย่างไร และวินัยเกี่ยวข้องกับอะไรบ้าง ใฝ่ความดี คือใฝ่หาความดี ทั้งนี้ เพื่อไปสู่อนาคตที่มั่นคงของเราต่อไป ผมคาดหวังให้เด็กเยาวชนของเราได้ตระหนักรู้ถึงบทบาทหน้าที่ความสำคัญของตัวเอง รวมทั้งหวังให้ครู อาจารย์ ผู้ปกครอง ได้มีส่วนร่วมในการปลูกฝังทัศนคติที่ดีและองค์ความรู้ต่างๆ เท่าที่จำเป็น เพื่อสร้างเกราะคุ้มกันให้คนของเราเดินหน้าไปสู่ศตวรรษที่ 21 ได้อย่างปลอดภัย” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า ครูจะต้องทำให้เด็กมีหัวใจแห่งความเข้มแข็ง ทำเพื่อตนเอง ครอบครัว สังคม และคนอื่นไปด้วย ประเทศชาติจะเดินหน้าไปข้างหน้าได้เพื่อสานต่ออดีต ที่ผ่านมามีประวัติศาสตร์ที่ต้องเรียนรู้ ประวัติศาสตร์ใดที่ดีงามเราก็สืบสานต่อ อะไรไม่ดีก็อย่าทำ ขอให้ทุกคนเข้าใจว่าเราไม่ได้ปลูกฝังอะไรทั้งสิ้น แต่ให้ทุกคนซึมซับด้วยหัวใจของพวกเรา ของความเป็นคนไทย จะรักษาชาติบ้านเมืองต่อไปในอนาคต
จากนั้นช่วงบ่าย พล.อ.ประยุทธ์เดินทางเข้ามาปฏิบัติงานภายในทำเนียบฯ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ครั้งที่ 1/2566 โดยระหว่างเดินจากตึกไทยคู่ฟ้าไปยังห้องประชุมที่ตึกภักดีบดินทร์ ด.ช.กิตติพิชญ์ ทองนอก หรือน้องพฤกษ์ บุตรชายของผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลได้สวัสดีนายกรัฐมนตรี และได้ตะโกนเรียกชื่อ “ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ทำให้นายกรัฐมนตรีเดินกลับมา และเรียกน้องพฤกษ์เข้าไปหาเพื่อถ่ายรูปร่วมกันและพูดคุยด้วยอย่างเป็นเอง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามน้องพฤกษ์ระหว่างที่ยืนอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ว่า เมื่อกี๊พูดว่าอะไร น้องพฤกษ์ตอบว่า “พล.อ.อนุพงษ์” นายกฯ จึงแกล้งงอนทำท่าจะเดินเข้าตึกภักดีบดินทร์ ก่อนที่น้องพฤกษ์จะบอกใหม่ว่า “พล.อ.ประยุทธ์” นายกฯ จึงเดินกลับมา น้องพฤกษ์จึงบอกว่าอยากเข้าไปข้างใน นายกฯ จึงชวนเข้าไปในตึกภักดีบดินทร์ แต่น้องพฤกษ์ไม่ได้ตามเข้าไป
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเตรียมจัดงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่าเป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากงดจัดงานวันเด็กมาถึง 3 ปีติดต่อกันจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 โดยหน่วยงานต่างๆ ภายในทำเนียบรัฐบาล อาทิ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี, สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี, สภาความมั่นคงแห่งชาติ, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารออมสิน รวมถึงภาคเอกชน ได้จัดเตรียมเต็นท์กิจกรรม เวทีการแสดงและนิทรรศการให้ความรู้ บูธอาหารและเครื่องดื่มให้เด็กๆ ร่วมฉลองวันเด็กเต็มพื้นที่ทำเนียบฯ รวมทั้งเปิดห้องทำงานให้เด็กนั่งเก้าอี้นายกฯ เหมือนทุกครั้งด้วย
ส่วนบริเวณหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ได้นำรถโบราณมาจอดโชว์ให้เด็กได้ทดลองนั่ง ขณะที่กรมทรัพยากรธรณีได้นำไดโนเสาร์จำลองมาตั้งโชว์หน้าตึกสันติไมตรีให้เด็กๆ ได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก จัดนิทรรศการธงไตรรงค์ และ Waste to Wealth ภายใต้ “BCG Model” ขยะ มั่งคั่ง ยั่งยืน ให้ความรู้จัดการขยะ และสาธิตนำสิ่งของเหลือมาใช้ประโยชน์ พร้อมกิจกรรมยิงปืนกระสุนยาง เกมปาเป้าลูกโป่ง ตอบปัญหาชิงรางวัล เด็กน้อยสายแดนซ์ เต้นเพลงฮิตใน TikTok การละเล่นของเด็กไทยในอดีต กิจกรรมเด็กอวด (ทำ)ดี นำเสนอการแสดงเพลงฉ่อยพื้นบ้าน กิจกรรมเตะฟุตบอล
ต่อมาเวลา 16.50 น. พล.อ.ประยุทธ์ เดินลงจากตึกไทยคู่ฟ้าเพื่อตรวจความเรียบร้อยการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2566 ภายในทำเนียบรัฐบาล พร้อมพบปะทักทายและถ่ายรูปกับลูกหลานข้าราชการทำเนียบฯ รวมถึงเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐ เอกชน และองค์กรต่างๆ ที่มาเตรียมงานภายในทำเนียบฯอย่างเป็นกันเอง
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้เดินจูงมือเด็กๆ พร้อมชวนไปถ่ายรูปกับไดโนเสาร์จำลอง และกล่าวกับเด็กๆ ว่า “ไม่ต้องกลัวไดโนเสาร์ เพราะตายไปแล้วนับล้านปี” อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรียังได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่มาเตรียมจัดงานวันเด็กด้วย
ขณะที่นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ปี 2566 วธ.ร่วมกับสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นเด็ก เยาวชน และประชาชน ในหัวข้อ “วันเด็กแห่งชาติ” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 จากกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศ จำนวน 7,439 คน ครอบคลุมทุกระดับการศึกษา ทุกอาชีพและทุกภูมิภาค ตอนหนึ่งถามถึงอาชีพที่ใฝ่ฝันอยากเป็นมากที่สุด อันดับ 1 ร้อยละ 14.85 ครู อาจารย์, อันดับ 2 ร้อยละ 12.26 แพทย์ พยาบาล, อันดับ 3 ร้อยละ 11.53 นักธุรกิจ พ่อค้า, อันดับ 4 ร้อยละ 11.24 ทหาร ตำรวจ และอันดับ 5 ร้อยละ 9.57 ยูทูบเบอร์
เมื่อถามว่า ปัญหาเร่งด่วนที่ควรหาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาเพื่อประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 25.54 ปัญหายาเสพติด, อันดับ 2 ร้อยละ 24.32 ปัญหาเกี่ยวกับการเรียน การศึกษา และอันดับ 3 ร้อยละ 22.44 ปัญหาการใช้ความรุนแรง
ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ศธ.จัดงานวันเด็กแห่งชาติ ปี 2566 ในวันที่ 14 ม.ค. ภายใต้แนวคิด “Children’s Day เด็กดี วิถีไทย” มีกิจกรรมการแสดงบนเวที อาทิ การแสดงดนตรีของศิลปินชื่อดัง เช่น “มิย่า ทองเจือ” ร่วมเล่นเกมกับดาราศิลปิน การประกวดหนูน้อยแห่งวังจันทรเกษม ตอนผ้าไทยใส่ให้สนุก เพื่อส่งเสริมสืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน ตามพระราชดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา รวมทั้งพี่บัวขาว-บัญชาเมฆ แชมป์มวยระดับโลก มาโชว์ลีลามวยไทยซึ่งเป็นที่รู้จักของคนทั้งโลก
กองทัพเรือ โดยหน่วยบัญชาการ กองเรือยุทธการ ได้มีการจัดเตรียมงานวันเด็ก ประจำปี 2566 ที่ท่าเทียบเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เปิดให้เด็กและเยาวชนเข้าเยี่ยมชมเรือรบกันอย่างใกล้ชิด อาทิ เรือหลวงสิมิลัน หมายเลข 871 ซึ่งเป็นเรือส่งกำลังบำรุงขนาดใหญ่, เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช หมายเลข 471 ซึ่งเป็นเรือฟริเกตสมรรถนะสูง สามารถทำการรบได้ทั้ง 3 มิติ
พ.ต.ท.หญิง ณพวรรณ ปัญญา รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนผู้ปกครองที่จะพาบุตรหลานไปเที่ยวช่วงเทศกาลงานวันเด็กแห่งชาติ ให้ระมัดระวัง พร้อมแนะนำวิธีป้องกันเด็กพลัดหลงว่า 1.ก่อนออกจากบ้านควรเขียน ชื่อ-เบอร์โทรศัพท์ของผู้ปกครอง ติดตัวไว้ในกระเป๋าเสื้อหรือกางเกงของเด็ก 2.ควรถ่ายรูปล่าสุดของเด็กก่อนออกจากบ้าน
3.สำหรับเด็กเล็ก ขอความร่วมมือผู้ปกครองควรต้องจูงมือไว้ตลอดเวลา 4.ผู้ปกครองควรบอกกล่าว สถานที่นัดพบ เส้นทาง จุดสังเกต หากเกิดกรณีพลัดหลง และ 5.หากเกิดเหตุพลัดหลงในพื้นที่ ให้ผู้ปกครองรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ในบริเวณนั้นทันที.
