ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(1ก.พ.65) ราคาหุ้นบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK ณ เวลา 15 :07 น. อยู่ที่ระดับ 8.35 บาท บวก 0.65 บาท หรือ 8.44% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 53.80 ล้านบาท
โดยก่อนหน้านี้(16 ม.ค.65) นางสาววริษา อนันตรัมพร ผู้จัดการทั่วไป ILINK เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 5-10% จากปีก่อน โดยเป็นการเติบโตจากธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาที่คาดเติบโต 5% เนื่องจากสาย Solar Cable มีแนวโน้มเติบโตสูง จากความต้องการของโรงเรือนต่างจังหวัด และบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ความสำคัญกับ ESG หันมาติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป ประกอบกับสถานการณ์โควิด-19 กลับมาอีกระลอก ทำให้หลายบริษัทปรับปรุงระบบโครงข่ายให้ทันสมัยขึ้น เพื่อให้ติดต่อสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างราบรื่น ซึ่งส่งผลเชิงบวกต่อบริษัท
สำหรับธุรกิจโทรคมนาคมในปี 2565 คาดว่าจะเติบโต 15-20% เนื่องจากธุรกิจให้บริการโครงข่ายวงจรสื่อสารข้อมูลความเร็วสูง (ดาต้า เซอร์วิส) มีแนวโน้มเติบโตชัดเจน จากการรับรู้รายได้จากการบริการโครงการอินเทอร์เน็ตชายขอบ (USO 1) และโครงการอินเทอร์เน็ตพื้นที่ห่างไกล (USO 2) ส่วนธุรกิจการให้บริการพื้นที่ศูนย์ข้อมูล (ดาต้า เซ็นเตอร์) ในส่วนของดาต้า เซ็นเตอร์ แห่งที่ 2 ภายใต้บริษัท เจเนซิส ดาต้า เซ็นเตอร์ จำกัด จะมีพันธมิตร ซึ่งเป็นดาต้า เซ็นเตอร์ รายใหญ่จากยุโรป เข้ามาร่วมลงทุนแทนพันธมิตร 2 รายเดิม
ขณะที่ธุรกิจวิศกรรมในปี 2565 คาดว่าจะใกล้เคียงปีก่อนที่ทำรายได้สูง โดยมีแผนเข้าประมูลงานใหม่ 2 โครงการใหญ่ ได้แก่ โครงการจ้างเหมาก่อสร้างสายเคเบิลใต้น้ำเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานีมูลค่าประมาณ 1,700 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดประมูลในช่วงต้นปี 2565 และโครงการจ้างเหมาก่อสร้างสายเคเบิลใต้น้ำเกาะสีชัง จ.ชลบุรี มูลค่า 900 ล้านบาท อยู่ระหว่างจัดทำ TOR ขณะที่คาดว่าจะมีการตัดสินโครงการก่อสร้างเคเบิลใต้น้ำ เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี มูลค่า 1,230 ล้านบาท ภายในปี 2565 ซึ่งปัจจุบันอยู่ในกระบวนศาลปกครอง หลังจากบริษัทได้เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด แต่ กฟภ.ได้ยกเลิกโครงการ รวมมูลค่า 3 โครงการดังกล่าว อยู่ที่กว่า 3,800 ล้านบาท
ทั้งนี้ งานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) สิ้นปี 2564 อยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจวิศวกรรม 700-1,000 ล้านบาท รับรู้รายได้ในปี 2565 ทั้งหมด และธุรกิจโทรคมนาคมกว่า 3,000 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่อง 3 ปี
ด้านแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2564 มั่นใจว่ารายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 6,000 ล้านบาท และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 6% ทำให้รายได้และกำไรทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) หลังจากในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564 มีรายได้อยู่ที่ 4,121.35 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 235.16 ล้านบาท ขณะที่แนวโน้มในไตรมาส 4/2564 ธุรกิจวิศวกรรม และธุรกิจโทรคมนาคม เป็นไตรมาสที่สูงสุดของปี 2564 ส่วนธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ คาดว่าต่ำกว่าไตรมาส 3/2564 เนื่องจากไตรมาส 3 เป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ
บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ได้ปรับคำแนะนำลงทุนหุ้น ILINK เป็น “ซื้อ” จากเดิม “ขาย” โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2565 ใหม่ 9.50 บาท เดิม 7.50 บาท ด้วยวิธี Sum of the part (SOTP) คิดเป็น Imply PE ปี 2564 ที่ 11.3 เท่า ซึ่งมีมุมมองบวกมากขึ้นต่อกำไรปี 2565-2566 ที่เติบโตสูงกว่าคาดการณ์เดิม เนื่องจาก 2 ธุรกิจหลักของบริษัท ได้แก่ ธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ มีผลบวกของการปรับขึ้นราคาสินค้า
ขณะเดียวกันธุรกิจวิศวกรรม มีโอกาสเกิด upside หากได้งาน Submarine cable รวมทั้งได้ประโยชน์จากการปรับเพิ่มกำไรสุทธิของบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL นอกจากนี้ ระยะสั้นมองว่า ILINK มี Catalyst บวกจากเข้าประมูล Submarine cable เกาะเต่า เดือน ม.ค. 2565 และคำชี้ขาดผลประมูลงานเกาะสมุยของศาลปกครองสูงสุดในครึ่งปีแรกของปี 2565
โดยได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 ขึ้น 28% เป็น 457 ล้านบาท (เดิม 358 ล้านบาท) และปี 2566 ปรับขึ้น 21% เป็น 463 ล้านบาท (เดิม 383 ล้านบาท) ส่วนปี 2564 ปรับกำไรสุทธิขึ้น 5% เป็น 352 ล้านบาท (เดิม 335 ล้านบาท)
