ภาค 2 เผยแพร่คำสั่งย้าย ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เข้าปฏิบัติงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังเอี่ยวเปลี่ยนตัวผู้ต้องหา

ศูนย์ข่าวศรีราชา – สำนักงานตำรวจภูธรภาค 2 เผยแพร่คำสั่ง ผบ.ตร.ย้าย พล.ต.ต.กิตต์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังมีพฤติกรรมเอี่ยวเปลี่ยนตัวผู้ต้องหาคดีฉาวพัทยา

วันนี้ (15 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานตำรวจภูธรภาค 2 ได้เผยแพร่หนังสือลงคำสั่งวันที่ 14 พ.ย.2565 โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เรื่องข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ โดยระบุว่า จากการที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 2 ได้รายงานเหตุ พล.ต.ต.กิตต์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.ชลบุรี มีเหตุสงสัยว่าประพฤติบกพร่องต่อหน้าที่และกระทำความผิดทางวินัยหรืออาญา หากปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานเดิมอาจเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวน หรืออาจยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและก่อให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการได้

ดังนั้น เพื่อมิให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ และการดำเนินการของตำรวจภูธรภาค 2 เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ อาศัยอำนาจตามาตรา 63 และมาตรา 197แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 และระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2563

จึงให้ พล.ต.ต.กิตต์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้ออกมากล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการเปลี่ยนตัวผู้ต้องหากระทำความผิดใช้ปืนยิงคู่อริภายในวิลลาหรูแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ตนเองเข้าตรวจสอบตั้งแต่มีการยิงกันในโรงแรมที่พัทยา และได้ไล่สืบสวนสอบสวนร่วมกับตำรวจภูธรภาค 2  จนพบว่าตัวผู้ต้องหาที่เข้ามอบตัว 2 คน เป็นตัวปลอม

และเมื่อการสอบสวนซักปากคำสุดท้ายเจ้าตัวรับสารภาพว่า ได้รับค่าจ้างมาให้มาเป็นผู้ต้องหาแทน และจากการขยายผลต่อมาทำให้พบว่า มีรอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องของการนำตัวผู้ต้องหาที่ไม่ใช่ตัวจริงมามอบ ซึ่งได้มีการแจ้งข้อกล่าวหารอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ไปแล้ว ในความผิดเรื่องการให้ความช่วยเหลือผู้ต้องหา เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

และจากการตรวจสอบรวมถึงร่องรอยข้อมูลต่างๆ จากพยานหลักฐานยังพบว่ามีระดับผู้บังคับการเข้าไปเกี่ยวข้อง จึงได้ออกหมายเรียก ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ให้มารับทราบข้อกล่าวหา โดยมีรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน