แม้นิด้าโพลจะส่ง “อุ๊งอิ๊ง” เป็นดาวเด่นเบื้องบูรพา แต่การจัดตัวผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทย ภาคตะวันออก ยังไม่ลงตัว บางจังหวัดฟัดกันเละ
วันที่ 20 พ.ย. 2565 นิด้าโพลเปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่องคนที่ใช่ พรรคที่ชอบ ของคนภาคตะวันออก ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 7-10 พ.ย.2565 จากประชาชนในภาคตะวันออก ประกอบด้วยฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี, ตราด, นครนายก, ปราจีนบุรี และสระแก้ว
คนที่ชอบจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี อันดับ 1 ร้อยละ 25.09 แพทองธาร ชินวัตร ,อันดับ 2 ร้อยละ 16.64 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และอันดับ 3 ร้อยละ 13.64 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
พรรคที่ใช่จะเลือกให้เป็น ส.ส. แบบแบ่งเขต อันดับ 1 ร้อยละ 33.68 พรรคเพื่อไทย ,อันดับ 2 ร้อยละ 19.29 พรรคก้าวไกล ,อันดับ 3 ร้อยละ 15.79 ยังไม่ตัดสินใจ และอันดับ 4 ร้อยละ 10.14 พรรคพลังประชารัฐ
พลิกแฟ้มการเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2550 และปี 2554 คนภาคตะวันออกส่วนใหญ่ จะเลือกพรรคประชาธิปัตย์ เพราะกระแสต้านระบอบทักษิณ ส่งผลให้อิทธิพลความคิดฝ่ายอนุรักษ์นิยมมาแรง
การเลือกตั้งปี 2562 มีสัญญาณการเปลี่ยนแปลงในภาคตะวันออก เมื่อผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ในชลบุรี 3 คน, ฉะเชิงเทรา 2 คน, จันท บุรี 3 คน และตราด 1 คน รวมแล้ว 9 คน
ปฏิเสธไม่ได้ว่า พรรคอนาคตใหม่ได้อานิสงส์จากพรรคไทยรักษาชาติถูกยุบ ส่วนพรรคเพื่อไทย ก็มี ส.ส.แค่ 1 คน ในภาคตะวันออก
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์อ่อนแรงลง เหลือ ส.ส.อยู่แค่ 2 คน สวนทางกับพรรคเกิดใหม่อย่างพลังประชารัฐ ที่มี ส.ส. 9 คน
แนวโน้มการเลือกตั้งครั้งใหม่ พลังประชารัฐ สายบูรพา ส่อเค้าวงแตกแยกทาง แต่เพื่อไทย ที่มีเสียงตอบรับดี แต่การคัดตัวผู้สมัคร ส.ส. ยังมีปัญหาขัดแย้งกันหลายเขต
เดือน ส.ค.2565 พรรคเพื่อไทย เพิ่งเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ภาคตะวันออก 4 จังหวัด ได้แก่นครนายก เกรียงไกร กิตติธเนศวร, ปราจีนบุรี กฤษณ์กมล แพงศรี และคงกฤช หงษ์วิไล ,สระแก้ว กฤษณะ สุนทรกิจพานิช และสรวงศ์ เทียนทอง และตราดทินวัฒน์ เจียมอุย
ส่วนสนามใหญ่อย่าง ชลบุรี ,ระยอง และจันทบุรี ยังอยู่ระหว่างการสรรหาตัวผู้สมัคร ส.ส.อยู่ เฉพาะเมืองชล เกิดข้อขัดแย้งกันเอง จนถึงขั้นอดีต ส.ส.ชลบุรี ลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย
ชลบุรีตีกันเอง
เลือกตั้งสมัยหน้า ชลบุรี มี ส.ส.เพิ่มเป็น 10 ที่นั่ง เดิมที เฮียเพ้ง-พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล มอบหมาย กำนันนิตย์-มานิตย์ ภาวสุทธิ์ อดีต ส.ส.ชลบุรี เป็นแม่ทัพเมืองชล จัดตัวผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 10 เขต
มานิตย์ ภาวสุทธิ์ อดีตกำนัน ต.หนองไม้แดง อ.เมือง จ.ชลบุรี เป็น ส.ส.ชลบุรี ปี 2550 สังกัด ปชป. เลือกตั้งสมัยที่แล้ว กำนันมานิตย์ย้ายไปอยู่ภูมิใจไทย แต่สอบตก
ต้นเดือน ต.ค.2565 มานิตย์ ภาวสุทธิ์ ได้แจ้งว่า ตัวเขาได้ลาออกจากพรรคเพื่อไทยแล้ว สาเหตุน่าจะมาจากรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.ทับซ้อนกัน เนื่องจากแกนนำเพื่อไทย อนุญาตให้บางคนสวมเสื้อ พท.ลงพื้นที่ชนกับผู้สมัคร ส.ส.สายกำนันมานิตย์
อย่างเช่น ชาญยุทธ เฮงตระกูล อดีต ส.ส.ชลบุรี และแกนนำ นปช. ส่งลูกชาย รัฐกิจ เฮงตระกูล ลงสมัคร ส.ส. ในสีเสื้อเพื่อไทย เขตเมืองพัทยา
ว่ากันว่า ชาญยุทธเคยบินไปพบทักษิณ ชินวัตร ที่นครดูไบ เพื่อแสดงเจตจำนงลงสมัคร ส.ส.ชลบุรี โดยเวลานั้น พท.ชลบุรี ยังไร้แม่ทัพตัวจริง
ส่วนเฮียเป้า-จิระวุฒิ สิงห์โตทอง อดีต ส.ส.ชลบุรี ได้ลาออกจากเพื่อไทยไปสังกัดพรรคก้าวไกล และเสนอตัวลงสมัคร ส.ส.ชลบุรี เขต 3
คู่แข่งเพื่อไทย อย่างพลังประชารัฐ ชลบุรี ส่อวงแตกแยกย้าย สุชาติ ชมกลิ่น น่าจะพานักการเมืองท้องถิ่นซุ้มบ้านใหม่ชลบุรี ไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ ขณะที่สนธยา คุณปลื้ม ซุ้มบ้านใหญ่เมืองชล อาจแยกไปปั้นพรรคพลังบูรพา
สรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี พลังประชารัฐ สายบ้านบึง ก็ขึ้นอยู่กลุ่มสามมิตร สมศักดิ์-สุริยะ จะพาไปอยู่พรรคใหม่ หรือปักหลักอยู่กับลุงป้อม
พ่อมดดำรีเทิร์น
รับรู้กันล่วงหน้ามาหลายเดือนแล้ว สุชาติ ตันเจริญ ส.ส.ฉะเชิงเทรา จะอำลาพลังประชารัฐ ไปอยู่เพื่อไทย เพื่อง่ายต่อการหาเสียงในพื้นที่ อ.พนมสารคาม และ อ.สนามชัยเขต
ก่อนหน้า พปชร.สายแปดริ้ว ได้วางตัว ธรรมชาติ พรมพิทักษ์ ประธานสภา อบจ.ฉะเชิงเทรา ลง ส.ส.เขต 3 แทนสุชาติ ตันเจริญ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนตระกูลฉายแสง สมัยที่แล้ว ฐิติมา ฉายแสง และวุฒิพงศ์ ฉายแสง สังกัดไทยรักษาชาติ พอพรรค ทษช.ถูกยุบ ฐานเสียงก็เทให้อนาคตใหม่ ได้เป็น ส.ส. 2 คน
เลือกตั้งครั้งหน้า ฐิติมา และวุฒิพงศ์ คงสมัคร ส.ส.เขตเดิม(เขต 1 และเขต 4) ส่วนจาตุรนต์ ฉายแสง คงขึ้นบัญชีรายชื่อ
ถ้าเสี่ยเฮ้ง สุชาติ ชมกลิ่น ไปรวมไทยสร้างชาติ ค่าย พปชร.สายแปดริ้ว ก็วงแตกเหมือนชลบุรี สองพ่อลูก อิทธิ-อรรถกร ศิริลัทธยากร อยู่กับลุงป้อม ชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 2 จะไปกับเสี่ยเฮ้ง
ป๋าเหนาะคัมแบ็ค
แม้กระแสอุ๊งอิ๊ง และเพื่อไทย จะได้รับความนิยมเหนือลุงตู่ แต่สมรภูมิสระแก้วในวันนี้ ก็ยากที่เจ้าพ่อวังน้ำเย็น เสนาะ เทียนทอง จะกลับมาชนะยกจังหวัดได้ง่ายๆเหมือนในอดีต
เนื่องจากกำนันกี-ขวัญเรือน เทียนทอง นายก อบจ.สระแก้ว และน้องสะใภ้ป๋าเหนาะ ได้วางขุมกำลังทั้ง อบจ. , เทศบาล และ อบต. เต็มพื้นที่
สมัยหน้า กำนันขวัญเรือนก็ยังอยู่กับลุงป้อม การันตีเก้าอี้ ส.ส. 2 เขตคือ ฐานิสร์ เทียนทอง เขต 1 (อ.เมืองสระแก้ว, อ.เขาฉกรรจ์) และตรีนุช เทียนทอง เขต 2 (อ.วัฒนานคร)
ส่วนเขต 3 (อ.อรัญประเทศ, อ.ตาพระยา) ป๋าเหนาะ น่าจะได้ลุ้นแก้มือ หลังสมัยที่แล้ว ลูกชายสุดรัก สรวงศ์ เทียนทอง พ่าย สุรศักดิ์ ชิงนวรรณ์ สายตรงลุงป้อม
ประเมินว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า สรวงศ์ เทียนทอง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย น่าจะเอาชนะสุรศักดิ์ ชิงนวรรณ์ ไปได้ เพราะความขลังของ 3 ป.ในแผ่นดินบูรพาพยัคฆ์ ลดน้อยถอยลงไปมาก
เสนาะ เทียนทอง เติบโตมากับทหาร ก็ยังไม่เคยเห็นเลือกตั้งครั้งไหนโหดหินเท่ากับเลือกตั้งปี 2562 บารมีบูรพาพยัคฆ์เบ่งบานเต็มพื้นที่ ตกมาปี 2566 หากตู่กับป้อมแยกกันเดิน ก็เข้าทางเจ้าพ่อวังน้ำเย็น
จันท์ฮิไม่มีขุนพล
สมัยที่แล้ว ประวัฒน์ อุตตะโมต อดีต ส.ส.จันทบุรี พรรคเพื่อไทย ได้นำทีมผู้สมัคร ส.ส.จันทบุรี 3 เขต ลงสนามในสีเสื้อไทยรักษาชาติ หลังพรรค ทษช.ถูกยุบ คะแนนคนเสื้อแดง ก็เทไปที่ผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่ ได้รับเลือกเป็น ส.ส.ยกจังหวัด
ปัจจุบัน ประวัฒน์ อุตตะโมต ย้ายไปอยู่พรรคไทยสร้างไทย จึงทำให้ค่ายเพื่อไทย จันทบุรี ยังไร้เงาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 3 เขต
ที่น่าสนใจ ชินวัฒน์ หาบุญพาด และสำเริง ประจำเรือ อดีตแกนนำ นปช.ชาวจันทบุรี ได้ร่วมเดินสายไปกับครอบครัวเพื่อไทย ที่มีณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นผู้นำ คงรอดูว่า เพื่อไทยเมืองจันท์ จะใช้บริการอดีตแกนนำเสื้อแดงลงสมัคร ส.ส.หรือไม่
สรุปโดยภาพรวม การจัดทัพเพื่อไทยในภาคตะวันออก ยังกระท่อนกระแท่น ต้องวัดความแรงของกระแสอุ๊งอิ๊งอีกที หากไม่แรงจัดราวพายุ ก็คงเอาชนะนักการเมืองบ้านใหญ่ไม่ได้
