เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม
“ข่าวลึกปมลับ”เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP และสถานีโทรทัศน์ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 ตอน รอยแค้น “บ้านใหญ่-เสี่ยเฮ้ง” แยกกันเดิน รอสางบัญชีหนี้!
การเปิดศึกของสนธยา คุณปลื้ม พี่ใหญ่แห่งบ้านใหญ่ชลบุร กับสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ส ส.จ.ชลบุรี ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นเหตุจากความขัดแย้ง ความคับข้องใจที่ กลุ่มสุชาติ หรือ เสี่ยเฮ้งมีต่อ กลุ่มคุณปลื้ม ตั้งแต่หลังเลือกตั้ง ปี พ.ศ.2562
เพราะสุชาติ ไม่พอใจที่สนธยา เอาโควต้ารัฐมนตรีหนึ่งเก้าอี้ของชลบุรี ไปให้น้องชาย อิทธิพล คุณปลื้ม ทั้งที่อิทธิพลสอบตก อีกทั้งผู้สมัครส.ส.ชลบุรีของกลุ่มสนธยา ที่ลงสมัครในพื้นที่โซนชายทะเลทั้งหมดสามคนในพื้นที่ เกาะสีชัง ,ศรีราชา ,นาเกลือ,บางละมุง สอบตกหมด ทั้ง อิทธิพล คุณปลื้ม , ปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ และ พันธุ์ศักดิ์ เกตุวัตถา
แต่ทีมของสุชาติ สอบได้หมด ทั้งสามคน ส่วนส.ส.ชลบุรี อีกสองคนของพลังประชารัฐเป็นสายกลุ่มสามมิตรเดิมในปีกของตระกูล เนื่องจำนงค์ ตระกูลคหบดีใหญ่ในชลบุรี
จึงเท่ากับว่า กลุ่มสนธยา ไม่มีส.ส.ในมือแม้แต่คนเดียว แต่สนธยา กลับไปเจรจาขอเก้าอี้รัฐมนตรีกับบิ๊กป้อมให้กับน้องชาย อิทธิพล ทั้งที่ตกลงกับสุชาติแล้วว่าโควต้ารัฐมนตรีให้วัดกันที่ผลงานหลังเลือกตั้ง
มันจึงเป็น รอยแค้นการเมืองการเมืองที่สุชาติ เก็บไว้ในใจ ต้องกลืนเลือดมาร่วมปี พร้อมกับแยกตัวออกมาจากกลุ่มสนธยา แล้วก็เร่งสร้างบารมีการเมืองของตัวเองในพลังประชารัฐ ในฐานะประธานส.ส.พลังประชารัฐ จนดึงส.ส.จากจังหวัดอื่นมาอยู่ในกลุ่มเสี่ยเฮ้ง ได้จำนวนหนึ่ง
ตามสโลแกน “ให้เฮ้งดูแล”
จนสุดท้าย มีการปรับครม.จึงได้เก้าอี้ รมว.แรงงาน ที่เป็นการปรับให้ตามสัญญาใจจากบิ๊กตู่และบิ๊กป้อม และหลังจากนั้น สุชาติ ก็เริ่มสร้างบารมี และขยายอาณาจักรการเมืองของตัวเอง จากชลบุรีออกไปอีกหลายจังหวัดเช่น เพชรบุรี ระยอง เป็นต้น
ผลของการขยายอาณาจักรที่มากขึ้นเรื่อยๆ ของเสี่ยเฮ้ง โดยเฉพาะในจังหวัดชลบุรี จนมีการทับไลน์พื้นที่เลือกตั้งที่อยู่ในโซนของ กลุ่มบ้านใหญ่คุณปลื้ม จนสุดท้าย ก็มาถึงฟางเส้นสุดท้าย จนแตกหักกันตอนนี้
หลังจากที่สุชาติ ขอเป็นหัวหน้าทีมชลบุรีของพลังประชารัฐเอง กับการคัดเลือกตัวคนลงสมัครส.ส.ทั้งสิบเขตชลบุรีที่เพิ่มจากแปดคนมาเป็นสิบ จนทำให้มีการโวยวายเกิดขึ้นของสนธยา
ถึงขั้น มีการทวงบุญคุณ มีการระบุเรื่องคนทรยศ คนหักหลัง เปรียบอีกฝ่ายว่าเป็นสุนัข มีการด่ากลับเรื่องอดีตเจ้านายเป็นอัลไซเมอร์
ซึ่งสภาพอย่างที่เห็น ของแบบนี้ ลูกผู้ชาย แดนน้ำเค็ม ชลบุรี
มันก็คือการหักกันอย่างแรง ยากแล้วที่จะมองหน้ากันติด สบตากันได้สนิทใจ เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้
ตอนนี้ ดูจากหน้าเสื่อ โอกาสที่ กลุ่มคุณปลื้ม จะออกไปจากพลังประชารัฐ น่าจะเกินห้าสิบเปอร์เซนต์ไปแล้ว
เว้นเสียแต่ บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม มีเงื่อนไข ข้อตกลง ยาสมานรอยร้าว ที่กลุ่มคุณปลื้ม ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ
ส่วนที่ จะแก้ปัญหาโดยการให้ กลุ่มสนธยา กับกลุ่มสุชาติ รับผิดชอบพื้นที่เลือกตั้งชลบุรีที่มีสิบเขต แบ่งกันไป คนละห้าเขต ตามนโยบายรัฐบาลลุงตู่ คนละครึ่ง
ดูแล้ว สถานการณ์ไปไกลกว่านั้นมาก
เพราะในความเป็นจริง กลุ่มสนธยา เตรียมย้ายไปอยู่พรรคสร้างอนาคตไทยกับสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่คุ้นเคยกันดีสมัยอยู่ร่วมพรรคไทยรักไทยด้วยกัน
โดยมีข่าวว่า กลุ่มคุณปลื้ม มีการนัดพบเจรจากับกลุ่มสมคิดหลายรอบแล้ว ซึ่งข่าวนี้ก็รู้ถึงหูของ เสี่ยเฮ้งและบิ๊กป้อมมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว
จึงทำให้ เสี่ยเฮ้ง เลยรีบขยับเร็ว จะขอคัดเลือกคนลงส.ส.ชลบุรีทั้งหมด เพราะไม่อยากรอ กลุ่มสนธยาที่แทงกั๊ก เตรียมย้ายออกไปนานแล้ว เพราะขืนช้าอาจไม่ทันการ หาเสียงตามหลัง กลุ่มสนธยาที่จะไปอยู่พรรคอื่น
ท่ามกลางข่าวสอดแทรกว่า หากดีลไปพรรคสร้างอนาคตไทย กลุ่มสนธยา มองว่าไม่ดี ไม่แน่ที่กลุ่มสนธยาอาจมีพลิก โดยยกทีมย้ายกลับไปอยู่พรรคชาติไทยพัฒนาที่สนธยา เคยอยู่มาก่อน
หรือไม่ก็อีกสูตรที่เป็นไปได้คือ กลับไปอยู่พรรคพลังชล ที่กลุ่มสนธยา ตั้งไว้ ตอนเลือกตั้งปี 2554 เพื่อทำพรรคขนาดเล็กสัก 8-12 เสียง เน้นเจาะพื้นที่ตะวันออกทั้งชลบุรี ระยอง จันทบุรี แล้ว รอเข้าร่วมรัฐบาลกับทุกขั้วหลังเลือกตั้ง
ท่ามกลางข่าวว่าคนในพลังชล จัดโต๊ะรอเจ้าของพรรคตัวจริง กลุ่มคุณปลื้มไว้แล้ว
