อุบลราชธานี-เมืองดอกบัวมีแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่มี ส.ส.เพิ่มได้ถึง 11 คน เพื่อไทยจะแลนด์สไลด์ตามคำสั่งโทนี่เจ้าของพรรคไม่ใช่เรื่องง่าย ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์หรือแม้แต่ก้าวไกลไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ซึ่งปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 6
อย่างเกรียง กัลป์ตินันท์ รู้คำตอบดี
จังหวัดอุบลราชธานี จากเดิมมี 10 เขต คราวนี้เพิ่มเป็น 11 เขต โดยพรรคเพื่อไทย วางยุทธศาสตร์จะเพิ่มที่นั่งครั้งก่อนปี 2562 จำนวน 7 นั่งให้เป็น 11 ที่นั่ง คือ จะแลนด์สไลด์ตามคำสั่งลูกพี่โทนี่ คนแดนไกล ทำได้หรือไม่ ต้องถาม “เกรียง กัลป์ตินันท์” ปาตี้ลิสต์ลำดับ 6 เป็นบ้านใหญ่ของเมืองนี้ แต่ถ้าดูตามจิตของผู้ลงคะแนน ไม่ง่ายเสียทีเดียว
เริ่มกันที่เขต 1 คู่กัดตลอดกาลตั้งแต่ยุคพ่อเกรียง กัลป์ตินันท์ เพื่อไทย กับ อดุลย์ นิลเปรม มาถึงรุ่นลูกคือ วรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ ความเดิมครั้งที่แล้ว “อดุลย์” พ่าย “วรสิทธิ์” ไปแบบเฉียดฉิว ไม่ถึงพันคะแนน แต่คราวนี้ อดุลย์ มีแรงดีย้ายจากพลังประชารัฐไปสังกัดพรรคไทยสร้างไทย ของคุณหญิงหน่อย “สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” คะแนนดีกว่าตอนอยู่พรรคเก่าหลายเท่า
ส่วน วิศรุต สวัสดิวร จากก้าวไกล ก็มีสิทธิ์ลุ้น เพราะมีคะแนนจากคนรุ่นใหม่ และชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาของเทศบาลนครอุบลราชธานี เป็นแรงหนุน โดยครั้งที่แล้วผู้สมัครของพรรคนี้ในนามอนาคตใหม่ ทำคะแนนไม่น้อยหน้าได้กว่า 20,000 คะแนน จึงไม่ควรมองข้าม
เขต 2 ส.ส.เอ วุฒิพงษ์ นามบุตร เดิมมีกระแสข่าวจะย้ายเปลี่ยนสังกัดจากพรรคประชาธิปัตย์ไปอยู่หลายค่าย ตามน้าชาย วิฑูรย์ นามบุตร แต่ทั้งน้าทั้งหลานเปลี่ยนใจกลับมาอยู่บ้านเก่า ที่เป็น ส.ส.มากว่า 30 ปี ยังต้องแข่งขันกับ หมอแขก ณรงค์ชัย วีระกุล เพื่อไทย แต่ก็คงฝ่าด่านแลนด์สไลด์ไปได้เหมือนเดิม เพราะทั้งน้าทั้งหลานคู่นี้ คะแนนเหนียวแน่น ครั้งก่อนก็เอาชนะหมอแขกที่ไปไม่ถึงฝันสักทีกว่าหมื่นคะแนน
ไปที่เขต 3 ศุภชัย ศรีหล้า ระดับคีย์แมนพรรคประชาธิปัตย์ กลับมาคืนสังเวียน เจอศึกหนักกับ ชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ เพื่อไทย ที่ยกเขตเลือกตั้งเดิมให้บุตรสาวสุดที่รักน้องกรานต์ สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ ลงสนามเป็นครั้งแรก ส่วนเจ้าตัวย้ายเขตมาสู้ที่นี่ เพราะมั่นใจกระแสของพรรค แต่ไม่ง่าย เพราะเจ้าถิ่นเดิมทั้ง ศุภชัย ศรีหล้า และ สมบัติ รัตโน ของพรรคภูมิใจไทย ไม่ยอมให้ผ่านด่านไปได้แน่
เขต 4 คราวนี้ คงเป็นทีของ ลูกปอ “โยธากาญจน์ ฟองงาม” ลูกพ่อสุพล ฟองงาม จากพรรคภูมิใจไทย หวังมาทวงแชมป์เก่ากลับคืน แต่ก็เจอด่านหินของ ส.ส.เปิ้ล กิตติ์ธัญญา วาจาดี ของเพื่อไทย ซึ่งครั้งที่แล้ว ทำคะแนนได้จากคนเสื้อแดงที่เป็นฐานเดิมของนายสุพล เอาชนะไปได้กว่า 20,000 คะแนน แต่ ส.ส.เปิ้ล ก็ถูกลูกพี่ลูกน้อง น.ส.ใจยา วาจาดี จากพรรคชาติไทยพัฒนา มาแชร์เอาคะแนนไปอีก คงต้องเหนื่อยทั้งลูกปอ และน้าเปิ้ล จะแลนด์สไลด์ได้อีกเขตหรือไม่ ต้องถาม “เกรียง กัลป์ตินันท์”
เขต 5 คู่กัดตลอดกาล “รัฐกิตติ์ ผาลีพัฒน์” เพื่อไทย ต้องเจอกับ “สุทธิชัย จรูญเนตร” ภูมิใจไทย ครั้งที่แล้ว สุทธิชัย ก็พ่ายไปกว่าหมื่นคะแนน แต่ครั้งนี้ ได้ผลงานดีเข้าตาของพรรคมาใช้หาเสียง ก็น่าจะพอมีคะแนนสูสีกับคู่แข่งได้บ้าง
เขต 6 ศึกสายเลือด ทั้งคนหน้าใหม่ หน้าเก่า น.ส.ธัญธารีย์ สันตพันธุ์ เจอกับญาติฝั่งแม่นายธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์ พรรคภูมิใจไทย อดีต ส.ส.ครั้งที่แล้ว และเป็นพี่ชายนายสิทธิชัย ซึ่งครั้งนี้ ส่งเซฟกระทะเหล็ก บุญธรรม ภาคโพธิ์ ลงไทยสร้างไทย คงสู้กันดุเดือด ผลที่ออกน่าจะเป็นคนหน้าใหม่ที่ได้เป็นผู้แทนเขตนี้ ส่วนเป็นใคร ถามใจชาวบ้านเขตนี้เอาเอง
ไปเขต 7 คราวนี้ คู่แข่งเบอร์ติดกัน ทั้งเบอร์ 10 และ 11 คือ เชิดศักดิ์ โภคกุลกานนท์ ภูมิใจไทย ที่พ่ายให้ผู้พ่อ ชูวิทย์ (กุ่ย) ไป 3,000 กว่าคะแนน คราวนี้ เจอกับคนลูก สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ เพื่อไทย ที่พ่อยกเขตให้
ใช่ว่า ตี๋เล็ก เชิดศักดิ์ จะเคี้ยวได้ง่ายๆ เพราะเธอคือ น้องกรานต์ สุดารัตน์ ได้ DNA ผู้พ่อมาพอสมควร อายุไม่ถึง 5 ขวบ ก็ช่วยพ่อออกหาเสียง ด้วยสโลแกนคำพูดว่า “พ่อใหญ่ แม่ใหญ่ ลุง ป้า น้า อา ซ่อยเลือกพ่อข่อยเป็น ส.ส.แหน่เด้อค่า เพิ่นอยากเป็น ส.ส.แฮ๊ง แฮง” คราวนี้ จะใช้สโลแกนอะไร และได้คะแนนไหมตามดูกันต่อไป
เขต 8 หญิงแกร่ง นางสาวแนน บุณย์ธิดา สมชัย ของภูมิใจไทย ครั้งที่แล้วถูก เอกพล ญาวงค์ เพื่อไทย ไล่ตามจนเกือบจะทัน ทิ้งห่างกันแค่พันกว่าคะแนน ทำให้สมัยนี้ น้องแนน ลูกพ่ออิสสระ สมชัย ตัดสินใจทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ มาอยู่ภูมิใจไทย เพราะความช่วยเหลือดีกว่า ผลงานของพรรคภูมิใจไทย ก็เข้าตาชาวบ้าน
ผิดจากประชาธิปัตย์ที่อยู่มาตั้งแต่รุ่นพ่อ แต่ความช่วยเหลือกระท่อนกระแท่น จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ออกจากประชาธิปัตย์ เพื่อทำคะแนนทิ้งห่างคู่แข่ง เอกพล ญาวงค์
มาที่เขต 9 คราวนี้เป็นศึกล้างแค้น ประภูศักดิ์ จินตะเวช เพื่อไทย ยังมีภาษีดีกว่า รำพูล ตันติวณิชชานนท์ ไทยสร้างไทย อดีต สจ.หลายสมัยที่ลงแทนสุชาติ ผู้เป็นสามี เพราะต้องแชร์คะแนนกับ สุพจน์ วรรณสุข ประชาธิปัตย์ ส่วนประภูศักดิ์ ได้กระแสพรรคช่วย แต่อย่าชะล่าใจ เพราะรำพูล ครั้งที่แล้วแพ้ไปหมื่นกว่าคะแนน ก็ซุ่มเก็บเกี่ยวคะแนนสะสมตลอดมา สำคัญ “สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” สั่งสู้รึเปล่า
เขต 10 สมคิด เชื้อคง เพื่อไทย ครั้งนี้ ไม่เจอคนตามไล่บี้เหมือนครั้งที่แล้ว แต่เจอคู่ปรับเก่าแก่อย่าง ศักดิ์ชัย จินตะเวช ภูมิใจไทย ทำให้น่าหนักใจกว่าเดิม เพราะเป็นคู่ต่อสู้ที่สมศักดิ์ศรี สมคิดนั้น ได้กระแสพรรคและกระแสหน้าสื่อ เพราะออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บ่อย มีภาษีดีกว่าแน่นอน
แต่ถ้าหมอหนู “อนุทิน ชาญวีรกูล” สั่งศักดิ์ชัย สู้ สมคิดก็เหนื่อยได้เหมือนกัน
เขตสุดท้าย ที่เลข 11 เป็นการสู้กับคู่ปรับเก่า เอกชัย ทรงอำนาจเจริญ เพื่อไทย กับ ตวงทิพย์ จินตะเวช ลูกพ่อตุ่น จินตะเวช ของภูมิใจไทย
หนนี้ ตวงทิพย์ ยังต้องเจอกับ สุริยา ขันอาสา จากไทยสร้างไทย ตามมาตัดคะแนน ยังหายใจไม่โล่งอก ส่วนเอกชัย ได้ทั้งกระแสพรรค และการเกาะติดพื้นที่มีภาษีดีกว่า แต่ก็ถูกตวงทิพย์ ภูมิใจไทย ที่มีผลงานพรรคมาเสนอกับชาวบ้าน ผสมกับกระแสลูกพ่อตุ่น ที่อยู่กับพื้นที่มาอย่างยาวนาน ตามจี้มาติดๆ วันที่ 14 พฤษภาคม รู้แน่ใครอยู่ใครไป เอกชัย หรือ ตวงทิตย์
เพราะเวทีนี้ ไม่มีแลนด์สไลด์ ได้แค่แบ่งๆ แต้ม แบ่งที่นั่งกันไปนะ…จะบอกให้!!
