นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 32.90 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.94 บาท/ดอลลาร์
ระหว่างวันเงินบาทแกว่งในกรอบกว้างเกือบ 30 สตางค์ จากการซื้อขายในตลาดที่เป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุน ตอบรับผลการประชุมของคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค.ชุด ใหญ่ ปลดล็อกให้สามารถรับนักท่องเที่ยวด้วยระบบ Test&Go อีกครั้งในเดือนหน้า ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการฟื้นตัวของภาคการท่อง เที่ยวไทย โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 32.82 – 33.08 บาท/ดอลลาร์
“วันนี้สกุลเงินภูมิภาคมีแข็งค่าบ้าง แต่เงินบาทแข็งค่าค่อนข้างมาก” นักบริหารเงิน ระบุ
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 32.80 – 33.00 บาท/ดอลลาร์ สำหรับปัจจัยที่ ต้องติดตามคืนนี้ คือ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค. ของสหรัฐฯ
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 114.25 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 114.34 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1345 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1348 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,656.96 จุด ลดลง 1.28 จุด, -0.08%
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,697.17 ลบ.(SET+MAI)
- ที่ประชุม ศบค.เห็นชอบปรับระดับของพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักรโดยปรับพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) จากเดิม68
จังหวัดปรับเป็น 44 จังหวัด และเพิ่มพื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) เป็น 25 จังหวัด ส่วนพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) ยังคง 8 จังหวัด
เหมือนเดิม
อีกทั้งเปิดลงทะเบียน Test&Go ได้อีกครั้งตั้งแต่ 1 ก.พ. 65 โดยปรับเป็นการตรวจ RT-PCR 2 ครั้ง และให้ขยาย Sandbox ชลบุรี (อ.บางละมุง เมืองพัทยา อ.ศรีราชา อ.เกาะสีชัง อ.สัตหีบ เฉพาะต.นาจอมเทียน ต.บางเสร่) และตราด พร้อม เปิดพื้นที่เชื่อมโยง Sandbox เดิม
- รมว.คลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “แรงขับเคลื่อนประเทศไทยในศักราชใหม่ 2022” ในงานสัมมนา ศักราชใหม่?
ความหวัง (หรือแค่ฝัน) ประเทศไทย 2022 ว่า คาดการณ์เศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ในปี 65 จะขยายตัวได้ที่ระดับ 3.5-4.5% เพิ่มขึ้นจาก
ปี 64 ที่จีดีพีขยายตัวได้ประมาณ 1% โดยสิ่งที่เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ได้แก่ ภาคการส่งออกที่ยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง จากปีที่ผ่านมา
ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ถึง 15-16% ซึ่งจะส่งผลดีไปยังการลงทุนภาคเอกชน และการผลิตในภาคอุตสาหกรรมด้วย นอกจากนี้ ภาคการท่อง
เที่ยวที่คาดว่าจะทยอยฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง
- นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้เรียกประชุมกระทรวงพลังงานและกระทรวงพาณิชย์เพื่อติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันที่
สูงขึ้นต่อเนื่องอย่างใกล้ชิด หลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ทำให้เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ซึ่งปัญหาด้านราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผล
กระทบในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย โดยได้มอบหมายให้นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน พร้อม
ด้วยนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน, อธิบดีกรมการค้าภายใน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมแผนรองรับและบริหารจัดการ
แบบบูรณาการ
- สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กรมสรรพากร ธนาคารแห่งประเทศไทย
(ธปท.) สมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย และสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย ร่วมประชุมหารือเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีสินทรัพย์ดิ
จิทัล เพื่อกำหนดแนวทางการคำนวณภาษีตามกฎหมายในประเด็นที่มีการหารือเกี่ยวกับความชัดเจน ผ่อนปรน และมองไปในอนาคต โดยจะ
นำไปเป็นข้อมูลประกอบการสำรวจความคิดเห็นของทั้งผู้ลงทุนและผู้ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล
- ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) เปิดเผยว่า ธนาคารตั้งเป้ากลับมาเติบโตทั้งด้านสินเชื่อและ
เงินฝากในปี 65 แต่การดำเนินงานและแผนกลยุทธ์ต่างๆ ในการสร้างการเติบโตจะยังเดินหน้าไปอย่างรอบคอบ เนื่องจากสถานการณ์โค
วิด-19 ก็ยังมีความไม่แน่นอนอยู่ ซึ่งหลังการรวมธนาคารและระบบต่างๆเป็นหนึ่งเดียวอย่างสมบูรณ์แล้ว ในปีนี้ธนาคารก็พร้อมที่จะเปิดตัว
และนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆที่ได้นำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยพัฒนาให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการที่ครบวงจรได้ง่ายและสะดวก
ขึ้น เพื่อสร้างชีวิตการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทยทั้งวันนี้และอนาคต พร้อมเดินหน้าต่อยอดธุรกิจควบคู่กับการพัฒนาศักยภาพด้านดิจิทัลต่อไป
- บรรดานักวิเคราะห์เปิดเผยว่า การส่งออกจะยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนในช่วงที่เหลือของปีนี้ ขณะที่ตลาดใน
ประเทศยังคงซบเซา
- ธนาคารยูเนียนแบงก์ของฟิลิปปินส์วางแผนที่จะเปิดให้บริการซื้อขายและรับฝากเงินคริปโทเคอร์เรนซี เพื่อตอบรับกระแส
ความนิยมของสกุลเงินดิจิทัลที่กำลังมาแรงภายในประเทศ
- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐ กล่าวว่า สนับสนุนแผนการของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะเริ่มใช้
นโยบายคุมเข้มด้านการเงิน และลดมาตรการผ่อนคลายทางการเงินที่เฟดได้นำมาใช้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของโรคโควิด-19
พร้อมกับกล่าวว่า เคารพในความเป็นอิสระของเฟด และย้ำว่าภารกิจของเฟดคือการควบคุมเงินเฟ้อ
- นอกจากนี้ ยังระบุว่า ยังไม่ถึงเวลาที่จะยกเลิกมาตรการทางภาษีที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์บังคับใช้กับจีน
