จากกรณีความคืบหน้าทางคดีฆ่าหมกคลอง “พลทหารนิว” วันที่ 1 ก.ค. 65 พนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญาระยอง จำนวน 3 คน ประกอบด้วย
1.นายบุญฤทธิ์ คำมุงคุณ หรือ บอย
2.นายสุเมธ คำมุงคุณ หรือ ดอน
3.นายสุพล กาฬเมฆ หรือ ปุ๊
ใน 2 ข้อหาคือ 1.ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 2.ซ้อนเร้นอำพรางศพ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายสุพล หรือ ปุ๊ ได้ในพื้นที่ อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีเดินทางมายังพื้นที่ซึ่งมีการเข้าคุมตัวนายปุ๊ พบว่าเป็นห้องพักของพนักงานในโรงงานผลิตไก่สดแห่งหนึ่ง ต.วัดสุวรรณ อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี นายวิชาญ สินแดง อายุ 40 ปี น้าของนายปุ๊ เจ้าของห้องพักพนักงาน บอกว่าปกติตนจะเรียกหลานว่า “ว่อง” หรือ “หว่อง” มาตั้งแต่เด็ก ไม่เคยรู้ว่าหลานมีอีกชื่อว่าปุ๊ แต่ก่อนหน้านี้ตนกับหลานไม่ได้ติดต่อกันนานกว่า 10 ปีแล้ว ไม่รู้เลยว่าหลานทำอะไรอยู่ที่ไหน นิสัยใจคอก็ไม่รู้
จนกระทั่งเมื่อ 19 มิ.ย. 65 หลานโทรศัพท์มาหาตน แล้วปรึกษาเรื่องหางานทำ ตนก็บอกไปว่าตอนนี้ตัวเองกำลังทำอยู่ในโรงงานไก่ เขารับสมัครพนักงานผู้ชายอยู่ หลานก็เลยสนใจและอยากจะเข้ามาสมัคร แล้วนัดหมายกันไว้ช่วงสิ้นเดือน มิ.ย. 65
ช่วงประมาณ 21.00 น. ของวันที่ 29 มิ.ย. 5 หลานก็บอกว่ากำลังเดินทางมาที่โรงงานด้วยรถกระบะสีขาวกับเพื่อนชายคนสนิท 1 คน ทราบภายหลังคือนายต้า พิศโฉม แฟนของปุ๊ ตนจึงรอรับแล้วหลานก็มาถึงประมาณ 23.00 น. จึงให้ขับรถไปจอดด้านในและขึ้นไปพักที่ห้องพักก่อน โดยตอนนั้นเห็นว่าหลานสะพายกระเป๋าเป้สีน้ำตาลแค่ 1 ใบ ด้านในมีเสื้อผ้า 4-5 ชุด
กระทั่งเช้าของวันที่ 30 มิ.ย.65 ช่วงเช้าตนได้โทรไปบอกหัวหน้าว่าจะพาหลานกับนายต้าไปเขียนสมัคร ซึ่งหัวหน้าก็บอกว่าสามารถรับได้แค่ผู้ชาย 1 คนเท่านั้น แล้วก็ให้ไปเตรียมเรื่องเอกสารที่ต้องใช้ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนกับสำเนาบัญชีธนาคาร ตนจึงพาหลานออกไปเปิดบัญชีธนาคารในตัวอำเภอ เสร็จแล้วก็พากันกลับมาที่ห้องพัก แล้วตนก็ฝากให้รุ่นพี่เอาบัตรประจำตัวประชาชนและหน้าบัญชีธนาคารของหลานไปถ่ายเอกสารให้
แล้วเมื่อวานนี้ตอนเช้าประมาณ 05.00 น. นายต้าก็ขอกลับบ้าน และขับรถกระบะออกไปก่อนที่หลานกับตนจะตื่น กระทั่งเวลาประมาณ 06.00 น. หลานตื่นขึ้นมาอาบน้ำเพื่อจะไปสมัครงานด้านในโรงงาน แต่หลานก็เอาโทรศัพท์ของตนไปค้นหาอะไรบางอย่างพักหนึ่ง จากนั้นก็เรียกตนซึ่งนอนอยู่บนเบาะให้ลุกขึ้นมาดูโทรศัพท์ โดยบอกว่า “น้าชาญ ผมมีอะไรจะสารภาพ” เมื่อตนลุกขึ้นไปดู ตรวจสอบประวัติการค้นหาใน Google ของโทรศัพท์ พบว่าเป็นข่าวจากรายการทุบโต๊ะข่าว ช่องอมรินทร์ทีวี เอชดี 34 คีย์เวิร์ดที่มีการค้นหาคือ “เจอศพ, เจอศพที่ชงโค, ดูข่าวย้อนหลังอมรินทร์ทีวี, รวมข่าวเจอศพ, ช่อง 34 ทุบโต๊ะข่าว, คดีดัง, คดีดังจังหวัดระยอง, คดีดังอำเภอแกลง, หมายจับสุพล มาฬเมฆ, ข่าวอมรินทร์ทีวี”
ตนเห็นว่าในข่าวมีรูปหลานที่คาดตาพร้อมกับคนอื่นอีกรวม 3 คน ก็เลยถามว่าไปทำอะไรมา หลานก็บอกว่า “ผมไปทำร้าย ไปตีคนในแคมป์งานก่อสร้างมา” แต่ไม่ได้บอกว่าทำร้ายอย่างไร เป็นคนลงมือฆ่าหรือเปล่า บวกกับในข่าวปรากฎชื่อว่าปุ๊ ซึ่งในความเข้าใจของตนคือไม่ใช่หลาน จากนั้นรุ่นพี่ตนก็เอาเอกว่าของหลานมาให้ที่ห้อง จึงชวนกันแต่งตัวเพื่อออกไปสมัครงานแทน ไม่ได้เอะใจว่าต้องพาไปมอบตัว
นาทีนั้นหลานยังไม่ทันใส่เสื้อ ประมาณ 06.30-07.00 น. ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ 2 นายมาเคาะประตูห้อง ตนก็เลยเดินไปเปิด ให้ใส่กุญแจมือ ตนก็ถามด้วยความงงว่า “ใส่กุญแจมืออะไรครับ” แล้วก็หันไปถามหลานอีกครั้งว่า “มึงไปทำอะไรมา”ตอนนั้นตำรวจก็อธิบายว่าหลานเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นจะคุมตัวหลานไปเป็นพยาน ด้วยความตกใจและงงก็พยายามถามหลานว่าเรื่องจริงไหม แต่ตำรวจก็รีบให้หลานใส่เสื้อแล้วคุมตัวหลานออกไปเสียก่อน สีหน้าท่าทางหลานก็ดูปกติ ไม่มีพิรุธ เครียดหรือกังวลอะไรเลย และก่อนหน้านี้ตนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหลานไปอยู่ที่ไหน จึงไม่อยากจะเชื่อว่าหลานจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีฆ่าคนได้
ด้านนายต้า พิศโฉม อายุ 37 ปี แฟนของนายสุพล หรือ ปุ๊ ผู้ต้องหา บอกว่าตัวเองคบหากับนายปุ๊ ได้ประมาณ 4-5 เดือนที่ผ่านมานายปุ๊จะทำงานก่อสร้างที่แคมป์คนงานจุดเกิดเหตุ และแวะเวียนหาตัวเองที่ อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี อยู่ตลอด
กระทั่งวันที่ 30 มิ.ย. 65 นายปุ๊ได้เดินทางมาหาตัวเอง และญาติของเขาที่ อ.บ่อทอง เพื่อจะสมัครงานในโรงงานไก่ ตัวเองได้ดูข่าวจึงสอบถามนายปุ๊ว่าไปทำอะไรมาถึงเป็นข่าว เขาก็ตอบว่าไปมีเรื่องกับนายนิว ผู้เสียชีวิต แต่เขาไม่ได้ลงมือ คนที่ลงมือคือนายดอน และนายบอย ที่เป็นคนรุมตีนายนิวจนเสียชีวิต
ส่วนสาเหตุที่นายดอน นายบอย ทำร้ายร่างกายนายนิวนั้น นายปุ๊เล่าบอกตัวเองว่ามาจากเรื่องผู้หญิง คาดว่ามีการแย่งผู้หญิงกัน ทำให้นายนิว และนายดอนมีการชกต่อยกันก่อน จากนั้นนายบอยก็มาช่วยลงมือทำร้าย หลังจากนายนิสเสียชีวิต นายบอย นายปุ๊ นายดอน เขายังทำงานที่แคมป์คนงานก่อสร้างอยู่ และระยะหลังมานายปุ๊ก็ได้มาขายไก่ย่างกับตัวเอง ทั้งนี้ ตัวเองได้ไปเยี่ยมนายปุ๊ แฟนของตัวเอง แล้วก็บอกให้เขาให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตามความเป็นจริง โทษหนักจะได้กลายเป็นเบา
ขณะที่นางพรทิพย์ เบ็ญจวรณ์ อายุ 61 ปี ย่าของพลทหารนิว สอบถามนายปุ๊ที่ด้านหลังห้องคุมขังด้วยการตะโกนคุยกัน ถามนายปุ๊ว่า นายนิว คนที่กลุ่มขแงนายบอยทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตนั้นใช่นิวคนเดียวกับหลานชายตัวเองหรือไม่ นายปุ๊ก็ตอบว่า “ไม่ใช่คนเดียวกัน เนื่องจากนายนิว ที่อยู่แคมป์คนงานนั้นจะแก่ และดูมีอายุประมาณ 40 ปี”
เวลา 20.12 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างคุมตัวนายบอย ไปหาหลักฐานเพิ่มเติม ตามเส้นทางที่นายบอยหลบหนี แต่ตำรวจยังไม่ขอบอกพิกัด ซึ่งหลังจากนั้นจะมีการนำตัวนายบอยห้องสืบสวน สภ.วังจันทร์ เพื่อทำการสอบปากคำนายบอยต่อไป
ด้านนายใหญ่ (นามสมมติ) เจ้าของรีสอร์ต เล่าว่า นายบอย และแฟนเข้าไปพักอาศัยอยู่ภายในวัดแห่งหนึ่ง ต.ทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี แล้วด้วยความที่ตนกับเจ้าอาวาสรู้จักกันอยู่แล้ว เจ้าอาวาสรู้ว่าตนกำลังหาคนงานมาช่วยที่สวนผลไม้ในรีสอร์ต ทำให้วันที่ 29 มิ.ย. 65 ช่วงบ่าย เจ้าอาวาสโทรศัพท์มาหาตน แล้วบอกประมาณว่ามีชายหญิงคู่หนึ่งหน่วยก้านดี เมื่อหลายปีก่อนผู้ชายเคยมาเป็นคนงานก่อสร้างสร้างเมรุให้กับวัด ตอนนี้เขามาหางานทำ อยากรับไปทำงานที่สวนไหม ตนจึงตอบรับไป และขับรถไปรับที่วัดซึ่งห่างจากสวนประมาณกว่า 50 กม.
จนกระทั่งช่วงบ่ายของวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 7-8 คนก็เข้ามาที่รีสอร์ตโดยไม่ได้บอกตน พอมาถึงก็เอารูปนายบอยให้ดู แล้วถามว่าอยู่ที่นี่ไหม ตนก็ตกใจ จึงถามกลับไปว่าเกิดอะไรขึ้น ตำรวจก็บอกว่านายบอยไปฆ่าคนตาย จากนั้นตนก็พาไปหานายบอยที่ห้องพัก ซึ่งตอนนั้นฝนตกเขานั่งผิงไฟอยู่หน้าเตา แล้วตำรวจก็คุมตัวโดยไม่มีการขัดขืน แต่สีหน้าสลดเหมือนรู้ตัว ตนยืนยันว่าตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่รู้จักกับทั้ง 2 คนมาก่อน
