ฝนถล่มสระแก้วน้ำไหลท่วมตลาดโรงเกลือสูงกว่าครึ่งเมตร พ่อค้าแม่ค้ารีบขนของ หนีน้ำโกลาหล ด้านน้ำเหนือไหล่ท่วมพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา เขื่อนต้องเร่งปล่อยน้ำ ทำให้พื้นที่ริมตลิ่งตั้งแต่ จ.ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง และอยุธยา น้ำสูงขึ้น ขณะที่กรุงเทพฯและปริมณฑลเจอฝนกระหน่ำหนัก ต้นไม้ล้มระเนนระนาดขวางถนนทับรถเก๋งเสียหาย “จิสด้า” เตือนช่วง 1-2 เดือนอาจเกิดพายุลูกใหม่อีก 2-3 ลูก เผยปีนี้ไทยเจอน้ำท่วมแล้วกว่า 18.5 ล้านไร่ แต่ยังน้อยกว่าปี 54 ถึง 3 เท่า
น้ำท่วมเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยายังน่าเป็นห่วง โดยเมื่อวันที่ 31 ส.ค. สถานการณ์น้ำในเขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีน้ำเหนือไหลผ่านจุดวัดน้ำค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ เพิ่มขึ้นล่าสุดมีปริมาณ 1,846 ลบ.ม./วินาที ทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาสูงขึ้น 48 ซม. ในรอบ 24 ชม. วัดได้ 15.91 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เขื่อนเพิ่มอัตราการระบายน้ำที่ 1,692 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้น้ำท้ายเขื่อนสูงขึ้น 29 ซม.อยู่ที่ 13.51 เมตร พื้นที่ท้ายเขื่อนตั้งแต่ อ.สรรพยา จ.สิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะ คลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำจะสูงขึ้น 20-30 ซม.
ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา แม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น ทำให้น้ำไหลท่วมพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำ หมู่ 1 และหมู่ 2 ต.บ้านรุน หมู่ 1 และหมู่ 2 ต.เกาะเรียน อ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำท่วมบ้านเรือนสูงประมาณ 30 ซม. ชาวบ้านเริ่มขนย้ายทรัพย์สินมีค่าหนีน้ำไปไว้บนที่สูง หลังจากได้รับแจ้งเตือนว่าเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท เพิ่มปริมาณการระบายน้ำมากขึ้น ขณะที่นายศักราช อัมวงษ์ นายก อบต.เกาะเรียน นำเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจน้ำท่วมพร้อมนำถุงยังชีพไปแจกจ่ายให้ผู้ป่วยติดเตียง และยารักษาน้ำกัดเท้าไปแจกให้ชาวบ้าน
จ.ปทุมธานี เกิดฝนตกหนักหลายพื้นที่นานกว่า 2 ชั่วโมง โดยเฉพาะ อ.ธัญบุรี ทำให้ถนนเลียบคลองสี่ตั้งแต่ปากทางเข้าฝั่ง อ.ธัญบุรี มุ่งหน้าออกไป อ.คลองหลวง น้ำระบายไม่ทันเอ่อท่วมถนนยาวไปถึงตลาดสดคลองสี่เมืองใหม่ระยะทางหลายกิโลเมตร รถยนต์สัญจรเข้าออกบริเวณดังกล่าวด้วยความลำบาก บางจุดน้ำท่วมสูงเกือบ 30 ซม. รถเล็กหรือรถจักรยานยนต์ต้องวิ่งด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ
ส่วน กทม.เกิดฝนตกและลมกระโชกแรง ทำให้ต้นแคนาริมถนนเทพรักษ์ แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน ทั้งขาเข้า และฝั่งขาออกตลอดทั้งเส้นถูกลมพัดแบบถอนรากถอนโคนล้มระเนนระนาดหลายสิบต้นกีดวางการจราจร ทำให้รถติดขัดยาวเหยียด และมีรถเก๋งโตโยต้า พรีอุส สีขาว ทะเบียน ฆว 325 กรุงเทพมหานคร ที่อยู่ในซอยเทพรักษ์ 57 ถูกต้นไม้ล้มทับเสียหาย นอกจากนี้บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต ถนนพหลโยธิน ถนนสายไหม และถนนเทพรักษ์ เกิดฝนตกกระหน่ำน้ำท่วมและการจราจรติดขัดอย่างหนักทั่วบริเวณ
เช่นเดียวกับ จ.สระแก้ว เกิดฝนตกหนักน้ำท่วมตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ปริมาณน้ำฝนไหลจากด้านบนฝั่งถนนศรีเพ็ญลงสู่พื้นที่ตลาดด้านล่างอย่างต่อเนื่อง ไม่สามารถระบายลงสู่คลองลึกได้ ทำให้น้ำเอ่อท่วมภายในตลาด ถนนสายหลักมีน้ำท่วมขังราว 30-50 ซม. บางจุดสูงกว่า 50 ซม. รถยนต์และรถจักรยานยนต์ต้องขับลุยน้ำ เพื่อเข้าไปเก็บสินค้ากันอย่างทุลักทุเล ส่วนด้านหน้าตลาดอินโดจีนน้ำท่วมสูง 20 ซม. เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำอย่างเร่งด่วน โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง จนสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ด้าน พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รมว.กลาโหม กำชับสั่งการทุกเหล่าทัพที่มีหน่วยทหารในพื้นที่ประสานฝ่ายปกครองและ กทม. สนับสนุนการแจ้งเตือนเฝ้าระวัง และให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมขัง เน้นย้ำให้จัดกำลังพลและเครื่องมือช่างเข้าช่วยเหลือดูแลความปลอดภัยและแก้ปัญหาความเดือดร้อนขั้นต้น โดยเฉพาะการเข้าไปช่วยเสริมแนวคันกั้นน้ำในพื้นที่ต่ำและพื้นที่เขตเมือง การเปิดทางน้ำและการระบายน้ำออกจากพื้นที่ต่ำน้ำท่วมขัง และให้จัดยานพาหนะอำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนไปถึงการสนับสนุนฟื้นฟูหลังน้ำท่วมจนกว่าสถานการณ์จะปกติ
นางกานดาศรี ลิมปาคม รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือจิสด้า เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยประสบปัญหาน้ำท่วมขังแล้วกว่า 1.85 ล้านไร่ ถือว่ายังน้อยกว่าอยู่ 3 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2554 จากปรากฏการณ์ลานีญาทำให้ฝนมาเร็ว ส่งผลให้หลายพื้นที่ของประเทศมีปริมาณน้ำฝนสะสมสูงขึ้น แต่ไม่รุนแรงเท่าปี 2554 โดยปีนี้ไทยยังไม่เจอพายุแบบทางตรง ที่ผ่านมาเป็นแค่ทางอ้อมเท่านั้น โดยในช่วง 1-2 เดือนนี้อาจเกิดพายุขึ้น 2-3 ลูก บางลูกไทยอาจไม่ได้รับอิทธิพลโดยตรง ทั้งนี้จิสด้าได้วางแผนและปรับแผนรับสัญญาณดาวเทียมมากกว่า 1 ดวง เพื่อวิเคราะห์ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ทำให้น้ำไหลท่วมถนนสาย 331 ช่วงหน้าตลาดสดบ่อวิน หมู่ 6 ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี รถเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านได้ ส่วนร้านค้าและบ้านเรือนประชาชนได้รับความเดือดร้อนถูกน้ำทะลักเข้าท่วมข้าวของเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าต่างๆ ได้รับความเสียหาย หลังเกิดเหตุนายอานนท์ สุภาภรณ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 และนางวิไลวรรณ เกิดไพบูลย์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ประสานเทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์และแขวงการทางเขาคันทรงลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วน
